บททดสอบ “เฉลยธรรมบัญญัติ”

ส่วนที่ 1 เติมคำในช่องว่าง วันที่ทดสอบ:21-6-2009
1.ดินแดนแห่งพันธสัญญา (คานาอัน) เป็นภาพสะท้อนถึงดินแดนแห่งพระสัญญาที่แท้จริงคือ
2.ความเชื่อหนึ่งเดียวสำหรับมนุษย์ในยุคพระคุณที่จะได้รับความรอดคือ
3.พระเยซูคริสต์ตรัสถึงวิธีการรับถ้อยคำพระเจ้าของแต่ละคนไว้ในคำอุปมาเรื่อง
4.วัฒนธรรม ประเพณีจัดเป็นสิทธิอำนาจที่คริสเตียนพึ่งพาได้หรือไม่
5.เหตุผล และ อารมณ์จัดเป็นสิทธิอำนาจที่คริสเตียนพึ่งพาได้หรือไม่
6.มาตรฐานสมบูรณ์แบบ อันเป็นสิทธิอำนาจที่คริสเตียนพึ่งพาได้คือ
7.มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวก็หามิได้ แต่มนุษย์จะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกสิ่งที่
8.”พระวาทะทรงบังเกิดเป็นมนุษย์” ในยุคพระคุณนี้พระวาทะหมายถึง
9.รูปเคารพที่จับต้องมองเห็นได้ ได้แก่
10.รูปเคารพที่มองไม่เห็น ได้แก่
11.ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น”คริสเตียน” แต่เป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้โมโห ผู้นั้นได้ทำผิดพระบัญญัติ10ประการข้อใด
12.แม่ค้าที่โกงตาชั่ง ทำผิดพระบัญญัติข้อใด
13.”จงให้เกียรติบิดามารดา” พระบัญญัติข้อนี้ชี้ให้เห็นว่าพระเจ้าทรงให้ความสำคัญกับสถาบันใด
14.ผู้ที่จ้างแรงงานในราคาที่ต่ำเกินควรนั้น เท่ากับละเมิดพระบัญญัติข้อใด
15.ผู้ที่กล่าวว่าข้อพระคัมภีร์เฉลยธรรมบัญญัติ 6:5 เป็นพระบัญญัติข้อใหญ่และข้อต้น คือใคร
16.การที่เราจะติดสนิทกับพระเจ้าได้นั้น ในแต่ละวันเราจำเป็นต้อง
๑...........................................................
๒...........................................................
17.บรรทัดฐานที่ยืนยันว่าการสื่อสารนั้นมาจากพระเจ้าคือ
18.พระเจ้าทรงสำแดงวิธีการดำเนินชีวิต และหนทางของพระองค์อย่างสมบูรณ์ไว้ในชีวิตของ
19.คริสเตียนสามารถสำแดงความรักของพระเจ้ากับคนนอกบ้าน ก่อนคนในครอบครัวได้หรือไม่
20.ในสมัยพันธสัญญาเดิม อิสราเอลได้กินมานาที่พระเจ้าประทานจากฟ้า ส่วนในยุคพระคุณ ..............................ทรงเป็นอาหารจากสวรรค์ ถ้าผู้ใดได้กินจะไม่ตายแต่จะมี................................................
21.”อย่าขวนขวาย หาอาหารที่เสื่อมสิ้นไป” ความหมายของ” อาหารที่เสื่อมสิ้นไป “ ในข้อนี้
ที่เป็นวัตถุ ได้แก่
ที่เป็นนามธรรม ได้แก่
22.พระเจ้าทรงบัญชาให้เฆี่ยนผู้กระทำผิดได้ไม่เกิน 40 ที (ฉธบ.25:3) เหตุผลเพราะ
23.(โรม5:17-18) อ.เปาโลได้อธิบายเหตุผลแห่งทางรอดในองค์พระเยซูคริสต์ไว้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่ายว่า
24.”เยชุรูน อ้วนพีขึ้นแล้วก็มีพยศ” หมายถึงใคร
25.ผู้นำชนชาติอิสราเอลเข้าสู่ดินแดนคานาอัน ทางฝั่งตะวันตกของน.จอร์แดนคือใคร

ส่วนที่2 เลือกคำตอบที่ถูกต้อง
1.พระเจ้าทรงประสงค์ให้มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรี แม้แต่ผู้กระทำผิดเพราะเหตุใด
ก. เพราะมนุษย์บริสุทธิ์ ข.เพราะทรงสร้างมนุษย์ทุกคนตามพระฉายาของพระองค์ ค. เพราะมนุษย์มีจิตวิญญาณ
2.พระเยซูตรัสว่าสิ่งใดที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน (มาระโก 7:15-23)
ก.อาหารที่รับประทาน ข.สิ่งที่ออกมาจากปาก (ออกมาจากใจ ) ค.ความกลัว
3.แท้จริงแล้ว พระบัญญัติ10ประการ มีไว้เพื่อใคร
ก.อิสราเอล ข.คนต่างชาติ ค.มนุษย์ทุกคน
4.ข้อใดคือความหมายของการรักพระเจ้าในเวลานอนลง
ก.เวลาเจ็บป่วย ข.เวลาสุขสบาย ค.ถูกทุกข้อ
5.ข้อใดคือความหมายของการรักพระเจ้าในเวลาลุกขึ้น
ก.เวลาออกศึกสงคราม ข.เวลายืนหยัดเพี่อสิ่งที่ถูกต้อง ค.ถูกทุกข้อ
6.”จงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้ที่มือของท่าน เป็นหมายสำคัญ” ( ฉธบ.6:8) มีความหมายว่าอะไร
ก.ให้นำพระบัญญัติของพระเจ้าติดตัวไว้เสมอ ข.ให้ถ้อยคำพระเจ้าควบคุมการกระทำทุกอย่างของเรา ค.ให้ชูมือทุกครั้งที่อ่านพระบัญญัติของพระเจ้า
7.”และจงจารึกไว้ที่หว่างคิ้วของท่าน” (ฉธบ.6:8) มีความหมายว่าอะไร
ก.ให้ถ้อยคำของพระเจ้าควบคุมการมอง ความคิด และการตัดสินใจของตนเอง
ข.ให้เขียนถ้อยคำพระเจ้าไว้ที่หว่างคิ้ว ค.ให้วางพระบัญญัติของพระเจ้าไว้ที่หัวนอน
8. (ยอห์น 6:55-56) “ ผู้ที่กินเนื้อและดื่มโลหิตของพระเยซูคริสต์ “หมายถึงผู้ที่กระทำสิ่งใด
ก.อยู่กับพระองค์ในมื้อสุดท้าย ข.เข้าพิธีมหาสนิทกับพระองค์ ค.ถูกทุกข้อ
9.เมื่อเกิดปัญหาหรือเกิดความขัดแย้งในหมู่พี่น้อง วิธีที่ดีที่สุดที่เราควรทำคืออะไร
ก.กล่าวโทษผู้ที่ทำกระทำผิด ข.อธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน ค.ยึดมั่นในจุดยืนของตนเอง
10.ความไม่คงที่ของภูมิอากาศและปริมาณน้ำฝนในดินแดนปาเลสไตน์ เป็นสิ่งเตือนสติประชากรของพระเจ้าว่าอะไร
ก.ให้เห็นคุณค่าของทรัพยากร ข.ให้อยู่อย่างพอเพียง ค.ทุกคนต้องพึ่งในพระคุณของพระเจ้า
11.พระเยซูทรงสอนว่า สิ่งใดสำคัญที่สุด (มัทธิว22:37-38)
ก.การประกาศข่าวประเสริฐ ข.การรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจ ค.การอดอาหารอธิฐาน
12.สามีคือศีรษะ ภรรยาจงยอมฟังสามีเหมือนฟังผู้ใด (เอเฟซัส5:22-25)
ก.องค์พระผู้เป็นเจ้า ข.ศิษยาภิบาล ค.พ่อ แม่
13.ฝ่ายสามีจงรักภรรยาเหมือนสิ่งใด (เอเฟซัส 5:22-25)
ก,พ่อรักลูก ข.พี่รักน้อง ค.พระคริสต์ทรงรักคริสจักร
14.พระประสงค์ของพระเยซูคริสต์เกี่ยวกับชีวิตคู่ของเรา(มาระโก10:2-12) คือข้อใด
ก.ไม่ประสงค์ให้ผู้ใดหย่ากัน ข.ให้หย่าได้ในบางกรณี ค.ให้มีอิสระในการหย่า
15.”อย่าให้ผู้ใดยึดโม่ไว้เป็นประกัน” ความหมายของโม่คือข้อใด (ฉธบ.24:6)
ก.เครื่องมือหากิน ข.สัญลักษณ์ประจำบ้าน ค.สิ่งที่ไม่มีค่า
16.”ถ้าลืมฟ่อนข้าวในนาก็อย่ากลับไปเอา “ พระประสงค์ของพระเจ้าในข้อนี้คืออะไร (ฉธบ.24:19)
ก.ให้ประหยัด ข.ให้เอื้อเฟื้อต่อคนยากจน ค.ให้มีความรอบคอบ
17.การลงโทษผู้กระทำผิดนั้น ไม่ควรลบหลู่ให้เสียเกียรติแต่ควรมุ่งเน้นสิ่งใด
( ในสมัยพัธสัญญาเดิมฉธบ.25:1-3)
ก.ให้รับโทษหนักทุกกรณี ข.ทำประโยชน์แทนการรับโทษ ค.ให้โอกาสแก้ไข ปรับปรุงพฤติกรรม
18.”ฤทธานุภาพอันถาวร และเทวสภาพของพระองค์ก็ได้ปรากฎชัดในสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง” (โรม1:20) มีความหมายว่าอย่างไร
ก.พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ในการอัศจรรย์ทั้งปวง
ข.พระเจ้าทรงปรากฏพระองค์ให้เห็นอยู่เสมอ
ค.พระเจ้าทรงสำแดงฤทธานุภาพของพระองค์ให้ปรากฎชัดในธรรมชาติ
19.”พระองค์ทรงให้เขาดูดน้ำผึ้งจากศิลา ดื่มน้ำมันจากหินแข็งกล้า ให้ได้นมเปรี้ยวจากวัว และให้ได้น้ำนมจากแพะแกะ..” (ฉธบ.32:13- 14) ในข้อนี้มีความหมายว่าอะไร
ก.อิสราเอลจะอยู่อย่างทุกข์ยาก ข.อิสราเอลจะอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์
ค.อิสราเอลจะต้องนอนกลางดินกินกลางทราย
20.”เหมือนนกอินทรีย์ที่กวนรังของมัน...” (ฉธบ.32:11) เด็กๆคิดว่า นกอินทรีย์กวนรังเพื่ออะไร
ก.ให้ความอบอุ่นแก่ลูก ข.ทำความสะอาดรัง ค.ผลักให้ลูกออกไปฝึกบิน