วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หนังสือ 1ซามูเอล ครั้งที่20 อาทิตย์ที่ 4:7:2010 (ตอนจบ)

คราวที่แล้ว..เราก็ได้เห็นดาวิดกลับมาสำแดงสติปัญญาในทางพระเจ้าอีกครั้ง คือ กลับมาทำในสิ่งที่ควรทำ คิดในแบบที่ควรจะคิด เพราะก่อนหน้านี้ ดาวิดทำผิดหลายอย่าง บางอย่างอาจจะไม่ชัดเจน..ว่าผิดแต่ดูแล้วก็ไม่เคลียร์ ต่อเมื่อพระคำภีร์บอกว่า..”ดาวิดได้เข้มแข็งขึ้นในพระเจ้า” ทุกอย่างก็ดูจะเข้ารูปเข้ารอยขึ้น..
บทที่ 31 “มรณภาพของซาอูลกับโอรสทั้งสามองค์”
ดู1ซมอ.31:1-2 หลังจากที่ดาวิดหลุดออกมาจากกองทัพของฟิลิสเตียแล้ว ฟิลิสเตียก็เดินหน้า”ขึ้นเหนือ”ไปทำสงครามกับคนอิสราเอล ส่วนดาวิด..พอถึงศิกลาก..ก็มีอันจะต้อง”ลงใต้” ไปเอาคืนจากพวกอามาเลข..ที่มาปล้นบ้านเขา อันนี้เป็นแผนของพระเจ้าเลย..ที่จะแยกดาวิดไปไกลๆ..จะได้ไปยุ่งกับการรบของอิสราเอลกับฟิลิสเตียไม่ได้ ถ้าสังเกตให้ดีเราจะเห็นว่า..พระเจ้าไม่ได้แค่กีดกันดาวิดออกจากกองทัพของฟิลิสเตีย แต่พระองค์เตรียมเรื่องยุ่งๆที่บ้านไว้ให้ดาวิดด้วย..(จำคำนี้ให้ดี..พระเจ้าเตรียมเรื่องยุ่งๆไว้ให้ ) เพราะพระองค์กำหนดไว้แล้ว..ว่าซาอูลกับลูกๆจะต้องตายในสงครามครั้งนี้ เด็กๆลองคิดดูว่า..ถ้าดาวิดได้ไปร่วมรบกับพวกฟิลิสเตียเขาจะปล่อยให้ซาอูลกับโยนาธานถูกฆ่ามั๊ย..ไม่มีทาง แล้วถ้าพวกอามาเลขไม่มาปล้นนะ ดาวิดก็ไม่ได้อยู่บ้านหรอก เพราะเขาจะห่วงโยนาธาน..จนอยู่ไม่ติด พระเจ้าถึงต้องให้คนอามาเลขมาปล้นซะ..you จะได้ไม่ว่าง เพราะเรื่องของตัวมันค้ำคออยู่..จนไปช่วยใครไม่ได้
พระคำภีร์ไม่ได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการรบไว้มากเท่าไหร่ แค่พูดถึงสถานการณ์ไว้อย่างรวบรัด เรารู้ตั้งแต่ข้อที่1 เลยว่า..อิสราเอลสู้ฟิลิสเตียไม่ได้ สถานการณ์เป็นรอง..ทหารของอิสราเอลตายเกลื่อน..บนภูเขากิลโบอา ฟิลิสเตียไล่รุกเข้าไปจนถึงตัวโอรสทั้งสามองค์ของซาอูลแล้วก็ฆ่าพวกเขาทั้งหมดรวมถึงโยนาธานด้วย
ดู1ซมอ.31:3-4 ในที่สุดนักธนูก็เข้าประชิดตัวซาอูลแล้วก็ยิงเขา..แต่ไม่ตาย เพราะข้อที่4 บอกว่า..ซาอูลสั่งคนสนิทให้ช่วยฆ่าเขาที เพราะตอนนี้ก็พงาบๆแล้ว ถึงไม่ตายก็ไม่มีแรงจะหยิบดาบฆ่าตัวเอง แล้วซาอูลก็บอกว่าเขาไม่อยากตายด้วยน้ำมือของคนต่างชาติ..มันเสียศักดิ์ศรี ศักดิ์ศรีเยอะจัง..เหมือนอาบีเมเลข ในหนังสือผู้วินิจฉัย เด็กๆพอจะจำอาบีเมเลขได้มะ..ที่ฆ่าพี่น้องของตัวเองเกือบหมด เพราะอยากจะเป็นผู้นำ..โหดเหี้ยมมาก แต่สุดท้ายก็โดนผู้หญิงเอาหินโม่แป้งทุ่มหัวจนเละ เลยขอให้คนสนิทช่วยฆ่าเขา.. เหมือนซาอูลอย่างงี้เลย ต่างกันที่คนของซาอูลไม่ยอมทำให้ ซาอูลเลยต้องใช้วิธีล้มทับดาบของตัวเอง
ดู1ซมอ.31:5-6 พอซาอูลล้มทับดาบของตัวเอง..ทหารคนสนิทเลยนึกว่าเขาตายแล้ว ข้อที่5 ..เขียนว่า”เมื่อผู้ถืออาวุธเห็นว่า..ซาอูลสิ้นพระชนม์แล้ว เขาก็ล้มทับดาบของเขาเองตายด้วย” อันนี้คือ..คนสนิทเข้าใจไปเองว่าซาอูลตาย แต่จริงๆแล้ว..ยัง
ให้เด็กๆเปิดไปดูที่2ซมอ.1:6-7/8-9 จนคนอามาเลขมาเจอซาอูล..ที่ล้มทับดาบตัวเองแล้วยังไม่ตาย ซาอูลเลยขอให้คนอามาเลขเนี้ย..ช่วยฆ่าเขาที เพราะข้อที่9 บอกว่า”..เราระเหี่ยใจมาก แต่ชีวิตของเรายังอยู่” (ไหนบอกว่าไม่อยากตายด้วยมือของคนต่างชาติไง แล้วอามาเลขนี่มันไม่ใช่ต่างชาติตรงไหนเนี่ย) หลังจากที่พระเจ้าทิ้งเขาไป..ซาอูลเพี้ยนมากแล้วก็ทำอะไรพลาดตลอด พลาดจนลมหายใจสุดท้าย ขว้างหอกใส่ดาวิดก็ไม่โดน ขว้างใส่โยนาธานก็ไม่โดน กระทั่งจะล้มทับดาบตัวเองตาย..ก็ยังไม่แม่น ข้อที่6 บอกว่า..”ซาอูลและบุตรทั้งสามก็ตายในวันเดียวกัน” ประโยคนี้ทำให้เด็กๆนึกถึงใครมั่งมั๊ย..”เอลีกับลูกชายเขาไง..” เหตุการณ์เหมือนกันเปี๊ยบ พ่อลูกตายในวันเดียวกัน แล้วก็ตายด้วยฝีมือพวกฟิลิสเตียเหมือนกันด้วย เรื่องนี้ก็ไม่บังเอิญ..
ดู1ซมอ.31:7/8-9 ข้อที่7 บันทึกว่า..คนอิสราเอลที่อยู่ฝั่งภูเขาข้างโน้นกับฝั่งตะวันออกของน.จอร์แดน พูดง่ายๆ คือ พวกที่ไม่ได้อยู่ในเป้าของการโจมตี..ก็พลอยตกใจกลัวไปด้วย เพราะไร..ก็เห็นอยู่..ว่าพวกเขาแพ้ยับเยิน แม้แต่กษัตริย์กับรัชทายาทก็ตายหมดแล้ว..ยังจะหวังอะไรได้อีก..ก็เลยทิ้งบ้านทิ้งเมืองหนีเอาตัวรอด ปล่อยให้พวกฟิลิสเตียเข้าไปยึดครอง ข้อที่8-9 ทำให้เรารู้ว่าซาอูลไม่ได้ตายดี เขาถูกยิงด้วยธนูเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง และต้องทรมานอยู่รอความตายอย่างช้าๆ พอตายแล้วก็ถูกพวกฟิลิสเตียตัดหัวแล้วก็ทึ้งศพซะยับเยิน ข้อที่9 บอกว่า..คนฟิลิสตียเอาเสื้อเกราะกับหัวของซาอูลเดินแห่ไปรอบเมือง เพื่อไร..ประกาศชัยชนะของตัวเอง กับตอกย้ำความพ่ายแพ้แก่อิสราเอล ไม่ต้องบอกเราก็รู้..ว่าพวกฟิลิสเตียจะต้องทำด้วยความคึกคะนองสุดๆ
ดู1ซมอ.31:10 ข้อนี้ บอกว่า..นอกจากจะตัดหัวแห่ประจานไปรอบเมืองแล้ว พวกเขายังเอาเครื่องอาวุธของซาอูลไปไว้ในวัดของพระอัชทาโรทด้วย พวกฟิลิสเตียคงคิดว่า..รื่องนี้น่าจะทำให้อิสราเอลต้องเจ็บแสบที่สุด เพราะใครๆก็รู้..ว่าอิสราเอลมีความเชื่อที่จะนับถือพระเจ้าองค์เดียว..อย่างเคร่งครัด ดังนั้น พวกฟิลิสเตียเลยทำอย่างงี้..เพื่อเป็นการให้เกียรติพระของพวกเขาแล้วดูหมิ่นพระเจ้าของเรา ประมาณว่าพระของชั้นแน่กว่า..ชั้นถึงชนะแก ต้องบอกตรงๆ..ว่าคิดได้ตื้นมาก เพราะพระเจ้าของอิสราเอลทรงล้ำลึกเกินคำพูดใดๆ การที่พระองค์จะให้ใครแพ้..ใครชนะ เป็นเอกสิทธิ์หนึ่งเดียวที่ทุกคนต้องยอมรับ แล้วไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ..คนของพระเจ้าจะยังคงรัก..และเชื่อมั่นในพระองค์เสมอ คนของพระเจ้าจะไม่หันไปไหว้หรือเชื่อพระอื่น เพียงเพราะเขาได้รับความทุกข์ยาก (ถ้าเขาเป็นของพระเจ้าจริงๆ) ท้ายสุดของข้อนี้บอกว่า..พวกฟิลิสเตียได้เอาศพของก.ซาอูลกับโอรสไปมัดไว้กับกำแพงเมืองเบธชาน..ถึงตายแล้วร่างยังต้องรับผลแห่งความบาปที่ตัวเองทำไว้..ตามน้ำพระทัยจนครบถ้วนบริบูรณ์
ดู1ซมอง31:11-13 ก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป ข้อนี้บอกว่าเมื่อข่าวการถูกประจานของซาอูลและลูกๆรู้ถึงหูผู้กล้าหาญ..ชาวยาเบชกิเลอาด (อิสราเอลที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของน.จอร์แดน) พวกเขาก็เดินเท้าทั้งคืนไปที่เบธชาน แล้วก็เอาพระศพของซาอูลกับโอรสกลับมาที่ดินแดนอิสราเอล คือคนเมืองนี้เนี่ย..ยังคงจดจำเรื่องดีๆที่ซาอูลเคยทำไว้..ในบทที่11ของหนังสือ1ซมอ. ตอนที่นาหาชก.คนอัมโมนมาขู่จะควักลูกตาของคนอิสราเอลทุกคน ตอนนั้นพระวิญญาณพระเจ้ายังสถิตอยู่กับซาอูล เขาก็เลยกล้าที่จะชวนพี่น้องให้ลุกขึ้นสู้..โดยเอาวัวมาฟันเป็นท่อนๆแล้วก็ส่งข่าวไปทั่วอิสราเอลให้พี่น้องออกมาร่วมรบ มาตอนนี้พระเจ้าก็ให้ซาอูลได้กินผลส่วนที่เขาทำ ก็ถือว่า..ยังไม่แย่จนเกินไป เพราะอย่างน้อย..ก็ยังมีชาวยาเบชกิเลอาดที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขายังเคารพและสำนึกถึงบุญคุณของซาอูลที่เคยช่วยพวกเขาไว้ ข้อที่13 บอกว่า..ชาวยาเบชได้เผาศพของซาอูลกับโอรส แล้วก็ฝังกระดูกไว้ใต้ต้นสนหมอกในดินแดนของพวกเขา
เป็นอันปิดฉากชีวิตของซาอูลรวมทั้งชาวอิสราเอลในช่วงเวลานั้น เพราะหมดสภาพกันทั้งประเทศ ตั้งแต่ผู้นำไปจนถึงประชน..บ้านแตกสาแหรกขาด พระเจ้ากำลังตีสอนพวกเขา ไม่ใช่เพราะความบาปของซาอูลคนเดียว..ที่พาให้ทั้งประเทศต้องล่มจม แต่เป็นความบาปของอิสราเอลทั้งประเทศ และการพิพากษาในครั้งนี้มันเชื่อมโยงโดยตรงกับในบทที่12
เปิดไปดู 1ซมอ.12:16-17 “ความอธรรมของท่านทั้งหลายนั้นใหญ่โตเพียงไร ในการที่ขอให้มีพระราชา” จริงๆถ้าอยากจะมีผู้นำก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่พระเจ้ารู้..ว่าคนอิสราเอลคิดอะไรอยู่ พระองค์มองเห็น..ว่าที่อยากได้กษัตริย์เพราะจิตใจพวกเขากบฎถึงได้ปฏิเสธพระเจ้า แล้วการละทิ้งพระเจ้าเนี่ย..มันเรื่องใหญ่ ยังไงก็ต้องถูกพิพากษา ดังนั้นชะตาของคนอิสราเอลในช่วงท้ายของหนังสือเล่มนี้ก็เลยต้องเป็นอย่างงี้ กินผลไปก่อน..ส่วนที่พระเจ้าจะกู้ขึ้นมาใหม่ค่อยว่ากันทีหลัง เพราะพระเจ้าทรงสัตย์ซื่อต่อพระลักษณะของพระองค์เสมอ พระลักษณะของพระเจ้าเป็นยังไง ต้องทบทวนกันบ่อยๆ
“พระเยโอวาห์ พระเยโฮวาห์ พระเจ้าผู้ทรงพระกรุณา ทรงกอปรด้วยพระคุณ ทรงกริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และความสัตย์จริง ผู้ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อมนุษย์กระทั่งพันชั่วอายุ ผู้ทรงโปรดยกโทษการล่วงละเมิด การทรยศและบาปของเขาเสีย แต่จะทรงไม่มีโทษก็หามิได้..”
เปิดไปดู อพยพ34:6-7 “..ทรงกอปรด้วยพระคุณ ทรงกริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง ทรงโปรดยกโทษความบาปให้ แต่จะถือว่าไม่มีโทษก็หามิได้..” เด็กๆต้องจำไว้ให้แม่น นี่คือพระลักษณะของพระเจ้า พระองค์ก็ให้เวลาซาอูลกลับใจแล้ว..แต่เขาไม่ทำ แถมยังใช้เวลาที่เหลือเพิ่มพูนบาปชั่วให้กับตัวเอง สุดท้าย ก็ต้องตายตามที่พระเจ้าตรัสไว้ทุกอย่าง เราไปดูคำพิพากษาสุดท้ายที่พระเจ้าตรัสผ่านซามูเอลไว้ด้วยกัน
เปิดไป 1ซมอ.28:19 “..พระเจ้าจะทรงมอบอิสราเอลพร้อมกับตัวท่าน “ไว้ในมือของคนฟิลิสเตีย” เพราะฉะนั้น ที่ซาอูลไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าตัวตาย กับที่ทหารคนสนิทก็ไม่ช่วยฆ่าเขา..มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะพระเจ้ากำหนดไว้ให้เขาต้องตายแบบนี้..คือตายด้วยฝีมือของคนฟิลิสเตีย และถ้าพระเจ้าตรัสไว้แล้ว..ก็ไม่ต้องพยายามหรอก..ยังไงเขาก็เปลี่ยนชะตาตัวเองไม่ได้ แต่..ซาอูลยังพยายามจนหยดสุดท้ายที่จะหนีคำพิพากษาของพระเจ้า โดย..ครั้งแรกซาอูลขอให้คนถือเครื่องอาวุธช่วยฆ่าเขา..โดยให้เหตุผลว่า..ไม่อยากตายด้วยน้ำมือคนต่างชาติ เด็กๆว่า..ซาอูลคิดอย่างงี้จริงรึเปล่า..ไม่จริงเลย จริงๆแล้วเขาจะหนีความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่พระเจ้าทรงพิพากษาเขาต่างหาก พอทหารคนสนิทไม่ช่วยก็พยายามฆ่าตัวตาย ซึ่งอันนี้ผิดมหันต์ แต่อยากทำก็ทำไป เพราะยังไง you ก็ไม่สมหวังหรอก..จนกว่าจะถึงเวลาที่พระเจ้ากำหนด ยิ่งทำก็ยิ่งเจ็บหนัก..ก็กี่แผลแล้วล่ะ จนคนอามาเลขผ่านมาซาอูลถึงได้สมหวัง เด็กๆอาจจะสงสัยว่า..แล้วการหนีความเจ็บปวดหรือความทุกข์เนี่ย..มันผิดด้วยหรือ ยังไงก็ต้องบอกตามตรงว่า..มันก็ผิดอยู่
ดู มัทธิว 27:32-34 เรื่องนี้จะรับยากนิดนึง แต่น้าตุ๊กเชื่อ..ว่าด้วยพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เราจะรับได้ในที่สุดเพื่อไปสู่ความไพบูลย์ในองค์พระเยซูคริสต์ เพราะเหนือความเจ็บปวดทุกข์ทรมานทุกอย่างเนี่ย มันมีพระประสงค์ของพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่กว่า และนี่คือเหตุผลที่พระเยซูทรงปฏิเสธที่จะเสวยเหล้าองุ่นผสมของขม..เพราะมันจะทำให้ร่างการมึนชา นั่นหมายความว่า..พระองค์ไม่รับยาแก้ปวด พระองค์ไม่..แม้แต่จะบรรเทาให้ความเจ็บปวดนั้น..น้อยลง พระองค์รับมันอย่างสุดๆ เพื่อให้น้ำพระทัยของพระเจ้าได้สำเร็จ เรื่องอะไร..ก็ให้เราได้รับความรอดนี่ไง พระเยซูเห็นสิ่งนี้มีค่าและยิ่งใหญ่กว่าความเจ็บปวดของพระองค์
แต่อย่าตกใจ!!!..ภาระกิจที่สูงส่งขนาดนั้น..มันไม่เกิดกับเราหรอก
ดู 1โครินธ์ 10:13 พระเจ้าบอกชัดเจน..ว่าการทดลองหรือความทุกข์ยากต่างๆที่เกิดขึ้นกับ คริสเตียน จะไม่มีเรื่องไหนเลยที่หนักหนาเกินกว่าเราจะรับได้ แล้วก็จะไม่มีการทดลองที่แปลกประหลาดผิดมนุษย์เกิดขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่งทั้งนั้น มันจะเป็นปัญหาเดิมๆซ้ำๆที่เจอกันอยู่ประจำในชีวิตเรานี่แหละ..อย่างความเจ็บป่วย ความยากจน การสูญเสียของรัก คนที่รัก ความไม่สมหวัง..ก็ประมาณนั้น..เดิมๆ และเมื่อพระเจ้าให้เกิดแล้วพระองค์จะทรงให้ผ่านพ้นไปได้ทุกครั้ง คำหนุนใจที่น้าตุ๊กชอบมากก็คือ..”นี่ก็แค่อีกเรื่อง..ที่จะผ่านไป” เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีที่ทำให้เราตัวลอยได้ด้วยความสุข หรือเรื่องที่ทุกข์จนปางตาย ไม่ช้าก็เร็ว..ก็ต้องผ่านไปทั้งนั้น ไม่มีซักเรื่องเดียวที่จะคาอยู่ตลอดกาลโดยไม่ผ่านไปซักที
น้าตุ๊กอยากจะหนุนใจเด็กๆ เวลาที่ความทุกข์มันเข้ามาในชีวิต อย่าทำอะไรที่เป็นการตัดช่องน้อยแต่พอตัว จงรับมันไว้..อดทน และจดจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เรื่องชีวิตคู่” (อ้าว มาลงเรื่องนี้ได้ไง) เลือกให้ดี ดูให้แน่ แล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงาน “จงอดทนและรับมันไว้” จนกว่าชีวิตจะหาไม่ อย่าหย่าร้างเพื่อหลีกหนีความทุกข์ทรมาน เพราะอย่าลืมว่า..คนที่เรารักที่สุดจะได้รับผลกระทบจากความบาปของเราด้วยเสมอ จงอดทนให้ถึงที่สุด..ให้มันรู้กันไป..ว่าถ้าชั้นอดทน..ไม่หนีปัญหาแล้วมันจะตายไปตรงนั้น..ก็ให้มันตายไปเลย แต่รับรอง..ว่าไม่ตายหรอก และเมื่อเราอดทนจนถึงที่สุดแล้ว น้าตุ๊กเชื่อว่า..พระเจ้าจะทรงพอพระทัย..พระองค์จะทรงประทานพระคุณที่กรุณา..ยกโทษให้เมื่อเราทนรับสภาพด้วยหัวใจที่ยอมจำนน แล้วทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพดี
หนังสือ1ซมอ.ก็จบลงในที่สุด สัปดาห์หน้าเราจะประเมินผลกัน แต่เด็กๆไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะทำได้มากหรือน้อย ขอแค่ให้เรา”รู้ตัวเอง”..ว่าเราเข้าใจถูกหรือผิดตรงไหนจะได้แก้ไขกัน น้าตุ๊กจะทดสอบแบบเปิดกว้าง..ให้เด็กๆสามารถหาคำตอบในพระคำภีร์ได้ ปรึกษากันได้ จุดประสงค์คือ..เพื่อให้เด็กๆได้รู้พระวจนะของพระเจ้าอย่างถูกต้อง..ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ตรงไหนที่เรียนแล้วลืม..จะได้จำได้ ตรงไหนที่เข้าใจผิด..จะได้เข้าใจอย่างถูกต้อง น้าตุ๊กไม่มีนโยบายที่จะสอบเหมือนที่โรงเรียนหรือมหาวิยาลัย แต่จะเน้นจุดประสงค์ให้เด็กๆได้เช็คตัวเอง และเติมส่วนที่ขาดแก้ส่วนที่ผิด..ไม่ใช่ดีกรีหรือการแข่งขัน
พบกันสัปดาห์หน้าค่ะ ขอพระเจ้าอวยพร