วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

หนังสือ1ซามูเอล ครั้งที่15 อาทิตย์ที่ 30:5:2010

(ดาวิดไว้ชีวิตซาอูล)
ดู1ซมอ.24:1-3 หลังจากที่ซาอูลจัดการกับพวกฟิลิสเตีย(ที่มาเป็นก้างขวางคอ)เรียบร้อยแล้ว ลูกน้องก็มาส่งข่าว..ว่าดาวิดอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารเมืองเอนเกดี..(เอนเกดีคือโอเอซิสที่มีน้ำพุไหลตลอดปี..ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงทางชายฝั่งตะวันตกของเดดซี) ข้อนี้บอกว่า..ซาอูลรีบเกณฑ์คนมีฝีมือตั้งสามพันออกไปล่าดาวิด เขามุ่งหน้าไปที่หินเลียงผา ในเทือกเขายูเดีย เพราะเดาว่าดาวิดน่าจะหนีไปที่นั่น แต่ดาวิดคิดกลับกันเพราะดูทิศทางแล้ว..ดาวิดเหมือนจะไปในทางตรงกันข้าม คล้ายๆจะมุ่งหน้าไปหาซาอูล ทั้งคู่ก็เลยมาจ๊ะเอ๋กัน ยังไง..ข้อที่3 บอกว่า พอมาถึงคอกแกะริมทางซาอูลเกิดปวดท้องขึ้นมา มองไปก็เห็นมีถ้ำอยู่ถ้ำนึง..ก็เลยเข้าไปปลดทุกข์ในนั้น ปรากฎว่าดาวิดกับพวกซ่อนอยู่ในถ้ำนั้นพอดี
ดู1ซมอ.24:4-5 ข้อที่4 บอกว่า คนของดาวิดได้เผยพระวจนะว่า”วันนี้พระเจ้าจะมอบศัตรูไว้ในมือของดาวิด แปลว่าดาวิดจะมีโอกาสที่จะฆ่าซาอูลได้ แต่เด็กๆฟังให้ดี เพราะประโยคต่อไปพระเจ้าพูดว่า..”เจ้าจะทำกับเขาตามที่เจ้าเห็นควร” ถ้าข้อนี้เป็นคำพยากรณ์ ต้องบอกว่า..เป็นคำพยากรณ์ที่เป็นบททดสอบ..ว่าดาวิดเลือกที่จะทำอะไร..เมื่อพระเจ้าเปิดโอกาสให้เขาสามารถฆ่าซาอูลได้อย่างสบายๆ เพราะไม่ทันระวังตัวและแน่นอนไม่มีทหารคุ้มกันด้วย น้าตุ๊กเชื่อว่า..ในข้อนี้พระเจ้าทรงส่งถ้อยคำให้ดาวิดเลือก..วัดใจว่าเขาจะทำอะไร เราต้องไม่เข้าใจผิดว่าพระวจนะนี้เป็น (ไฟเขียว)หรือเป็นคำชี้แนะให้ดาวิดฆ่าซาอูลได้เลย..เพราะมันไม่ใช่ ให้ทำตามที่ดาวิดเห็นควร..แล้วพระเจ้าก็ทรงมองอยู่..ว่าดาวิดจะทำอะไร แต่สุดท้ายดูเหมือนดาวิดจะสอบผ่านนะ..เพราะเขาแค่ย่องไปตัดชายเสื้อของซาอูลมาเก็บไว้ และข้อที่ 5 ก็บอกว่า..พอตัดชายเสื้อของซาอูลแล้วดาวิดก็รู้สึกเสียใจ ทำไมต้องเสียใจ..เพราะจริงๆที่ทำไปก็คงแค่ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นหลักฐาน..ว่าเขาเข้าใกล้ซาอูลมากพอที่จะฆ่าซาอูลได้แล้ว..แต่เขาไม่ทำ แล้วถ้าดาวิดทำเพราะเหตุผลนี้ก็ไม่น่าจะผิดอะไร แต่ที่ดาวิดฟ้องผิดในใจคงเป็นเพราะเสื้อคลุมเนี่ย..มันเป็นสัญญลักษณ์ของราชบัลลังก์ เพราะฉะนั้น การไปตัดชายเสื้อของกษัตริย์มันก็เลยดูจะแรงไปหน่อย เหมือนมีเจตนาจะกระด้างกระเดื่องหรือสั่นคลอนราชบัลลังก์ (อะไรประมาณนั้น) เพราะฉะนั้น ดาวิดถึงรู้สึกฟ้องผิดในใจ
ดู1ซมอ.24:6-7 “ขอพระเจ้าทรงห้ามไม่ให้ข้าพเจ้าทำสิ่งนี้ต่อเจ้านาย..ด้วยว่าท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้” ดาวิดคงจิตตก..รู้สึกแย่กับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป แล้วตอนนี้คงเริ่มอ่อนกำลัง เพราะอย่าลืมว่าซาอูลทำกับเขาหนักหนาสาหัสมาก..ถึงดาวิดจะได้ชื่อว่าเป็นคนที่ทำตามพระทัยพระเจ้าอย่างถึงที่สุด แต่ยังไงดาวิดก็เป็นคน..เมื่อถูกกระทำอย่างหนักแล้วยังต้องผ่านการทดลองมากมายก็คงหมดแรง แต่ไม่เป็นไรเพราะดาวิดและคริสเตียน..มีพระเจ้า เด็กๆจำไว้ เมื่อไหร่ที่เราหมดแรง..กลัวว่าจะยืนหยัดอยู่บนความถูกต้องไม่ได้ ก็ให้เราอธิฐานขอกำลังจากพระเจ้า..อย่าให้เราทำบาป ข้อที่7บอกว่า..พอดาวิดอธิฐานเสร็จเขาก็หันไป”ห้าม” ไม่ให้ใครแตะต้องซาอูลเป็นอันขาด (ในต้นฉบับภาษาฮีบรูเขียนว่า ดาวิด”ฉีก”คนของเขาด้วยคำพูด คือ ใช้คำที่รุนแรงมาก เพื่อห้ามขาดไม่ให้ใครแตะต้องซาอูล)
ดู1ซมอ.24:8-9 หลังจากที่นั่งเงียบกันอยู่ในถ้ำ พอซาอูลออกไปแล้ว..จริงๆดาวิดกับพวกน่าจะรีบหนีไปนะ แต่ดาวิดกลับเลือกทำในสิ่งที่ทุกคนคิดไม่ถึง คือ วิ่งตามซาอูลไปที่ปากถ้ำ แล้วก็เรียกซาอูลว่า..”พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท” พอซาอูลหันมา..ดาวิดก็ก้มกราบลงถึงดินเพื่อสำแดงว่าเขายอมจำนนและยังยอมรับเสมอ..ว่าซาอูลเป็นกษัตริย์ ดาวิดคิดอะไรถึงทำอย่างงี้..เหตุผลแรกและสำคัญที่สุดคือดาวิดมาถึงจุดที่วางใจพระเจ้าได้อย่างสุดๆ เพราะการวิ่งไปเคลียร์กับซาอูลหน้าต่อหน้าเนี่ย..มันวัดใจกันสุดๆ..ไม่แน่จริงทำไม่ได้หรอก เพราะเดิมพันคือชีวิต (ไม่แน่จริงของน้าตุ๊กหมายถึง..ถ้าไม่แน่แก่ใจจริงๆว่าเราไว้ใจพระเจ้า..ก็คงไม่กล้าทำ)
อีกเหตุผล คือ.ดาวิดคงผ่านจุดที่กลัวสุดๆไปแล้ว เพราะคนเราถ้ากลัวอะไรมากๆแล้วลากยาวเหมือนดาวิดเนี่ย เมื่อมาถึงจุดนึง..จิตใจมันจะแข็งแกร่งขึ้นแล้วจะกลัวน้อยลง ดาวิดถึงเลือกที่จะเผชิญหน้ากับซาอูล
ดู1ซมอ.24:10-11 ดาวิดขอร้องให้ซาอูลฟังเขา..อย่าไปเชื่อคนอื่น แล้วให้คิดดูว่าสิ่งที่เขาพูดมันตรงกับที่เขาทำรึเปล่า แล้วดาวิดก็บอกว่า..วันนี้พระเจ้าเปิดโอกาสให้เขาแล้ว
ถ้าเขาคิดกบฎจริง..ป่านนี้ซาอูลตายไปแล้ว พรรคพวกก็ยุซะด้วยอยากให้ฆ่าซาอูล..(เรื่องมันจะได้จบๆ) แต่ดาวิดก็ไม่ทำ..เพราะซาอูลเป็น ”คนที่พระเจ้าเจิมไว้” ถ้าในคนสังคมของเราคิดได้ซักครึ่งนึงของดาวิด เหตุการณ์เลวร้ายคงไม่เกิดขึ้นมากมายเหมือนทุกวันนี้ เพราะผู้นำ..ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์..คณะรัฐบาล..พ่อแม่..ครู..เจ้านาย พระเจ้าก็เป็นคนเลือกทั้งหมด ถ้าเราต่อต้านผู้นำ..ก็เท่ากับต่อต้านพระเจ้า ถ้าจะมีความไม่ชอบธรรมเกิดขึ้น ก็ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย..องค์กร..หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เรามีหน้าที่แค่อธิฐานแล้วก็วางใจ..ว่าพระเจ้าคือผู้ควบคุม แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่..เพราะมีคนอีกเยอะที่ไม่ยำเกรงพระเจ้า..ไม่รู้จักพระองค์เลยด้วยซ้ำ พวกเขาถึงได้”กระทำตามที่ตัวเองเห็นชอบ”..คิดจะจัดการทุกอย่างด้วยมือของตัวเอง ความวุ่นวายทั้งหลายมันก็เลยเกิดขึ้น ข้อที่11 ดาวิดบอกซาอูลให้ดูหลักฐานในมือ เป็นชายเสื้อของซาอูลที่ดาวิดตัดมาได้โดยซาอูลไม่รู้ตัว มันเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า..ไม่ว่าซาอูลจะตามฆ่าล้างผลาญเขาขนาดไหน เขาก็ไม่เคยคิดจะทำการร้ายตอบแทนซาอูลเลย ขอให้ซาอูลเชื่อจริงๆว่าเขาไม่ได้กบฎ
ดู1ซมอ.24:14-15 “นี่พระราชาแห่งอิสราเอล ออกมาตามล่าใคร” ดาวิดพูดเตือนสติซาอูล..ว่าเขาเหมือนหมาที่ตายแล้วหรือไม่ก็เป็นแค่ตัวหมัด แล้วซาอูลจะกลัวเขาทำไม..ไม่มีเหตุผลที่พระราชาผู้ยิ่งใหญ่อย่างซาอูลจะต้องมากลัวเขา แล้วข้อที่15 ดาวิดก็ขอให้พระเจ้าเป็นผู้พิพากษาเรื่องราวระหว่างเขากับซาอูล เขาจะไม่มีวันเหยียดมือออก..แตะต้องหรือทำร้าย ซาอูลเป็นอันขาด เพราะดาวิดเชื่อแน่แก่ใจว่า..ไม่ว่าผู้นำจะผิดบาปหรือชั่วช้าซักแค่ไหน ซาอูลจะทำร้ายเขามากเท่าไหร่ ยังไงการพิพากษาและแก้แค้นก็เป็นของพระเจ้าเท่านั้น..ไมใช่หน้าที่ของมนุษย์ แล้วเราคิดอย่างงี้ได้มากแค่ไหนแล้ว..นี่เป็นสิ่งที่เด็กๆต้องตอบโจทย์ตัวเองด้วย การเรียนพระคำภีร์ถึงจะบรรลุผลตามน้ำพระทัยที่ครบถ้วนบริบูรณ์ของพระเจ้า
ท่าทีอันงดงามของซาอูล..(ที่หาดูยากเต็มที)
ดู1ซมอ.24:16-18/19-20 จริงๆตอนที่ดาวิดเรียก..ซาอูลคงตกใจแทบสิ้นสติเหมือนกันนะ..เพราะมะกี๊..ชั้นอยู่ตรงนั้น..คนเดียว..ไม่มีทหาร..ในลักษณะที่ป้องกันตัวเองไม่ได้เพราะกำลังปลดทุกข์..แล้วจู่ๆเสียงของดาวิดก็เรียกขึ้นมาจากที่ๆชั้นเพิ่งเดินออกมา เลยไม่รู้..ว่าที่ร้องไห้เนี่ย..เพราะสำนึก หรือกลัว..จนเสียรูป เพราะข้อที่16 บอกว่า..ซาอูลถึงกับกรรแสงเลยค่ะเขาถามกลับไปว่า..”นั่นเสียงเจ้าเหรอดาวิด”เจ้าช่างแสนดี..ทั้งๆที่พ่อก็ร้ายกับเจ้าทุกอย่าง แล้ววันนี้เจ้าก็ยังพิสูจน์ด้วย..ว่าเจ้าเป็นคนที่สัตย์ซื่อ มีโอกาสที่จะฆ่าพ่อได้แต่เจ้าก็ไม่ทำ (น่ารักจิงจิ๊ง..ลูกพ่อ) ข้อที่20 เป็นสิ่งที่เราไม่คิดว่าชาตินี้จะได้ยินจากปากซาอูล เพราะเขาพูดออกมาจนได้..ว่าเจ้าจะเป็นพระราชาแน่..ดาวิด แล้วอาณาจักรอิสราเอลก็จะสถาปนาอยู่ในมือเจ้าด้วย (เอเมน) น่าทึ่งมาก..เพราะนี่เป็นครั้งแรก..ที่ซาอูลยอมรับว่าดาวิดคือผู้ที่พระเจ้าเลือกให้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไปของอิสราเอล
ดู1ซมอ.24:21-22 พอเริ่มมีสติซาอูลก็ขอให้ดาวิดสัญญา..ว่าจะไม่ฆ่าตัดตอนเผ่าพันศ์ของเขา เพราะน้าตุ๊กเคยสอนแล้ว..ว่ามันเป็นวิถีปฏิบัติ..ที่กษัตริย์ราชวงศ์ใหม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อสายของกษัตริย์ราชวงศ์เดิม..เพื่อความปลอดภัยของราชบัลลังก์ ข้อที่22 บอกว่า..ดาวิดก็ได้สัญญากับซาอูล..ว่าจะไม่ทำลายพงศ์พันธ์ของเขาให้หมดสิ้นไป หลังจากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไป..ซาอูลก็กลับไปบ้าน ส่วนดาวิดพระคำภีร์บอกว่า..เขายังกลับไปอยู่ในที่กำบังอันเข้มแข็ง แปลว่ายังต้องอยู่ในที่ซ่อน..เพราะยังไม่ไว้ใจซาอูล
วันนี้น้าตุ๊กฝากไว้แค่นี้ก่อนนะคะ เพราะเวลาน้อย
จนกว่าจะพบกันใหม่ พระเจ้าอวยพรค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น