วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

หนังสือ1ซามูเอล ครั้งที่12 อาทิตย์ที่9:5:2010

ดู1ซมอ.18:6-9 ข้อนี้บอกว่า หลังจากที่ดาวิดกลับจากการไล่ฆ่าพวกฟิลิสเตียพร้อมกับกองทหารของอิสราเอล..พวกผู้หญิงก็ออกมาร้องรำทำเพลงด้วยความดีใจ จริงๆแล้วการออกมาร้องรำทำเพลงของพวกผู้หญิง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของอิสราเอล..เขาทำกันมาตั้งนานแล้ว..ครั้งที่พระเจ้าช่วยกู้คนอิสราเอลจากมือของฟาโรห์..แล้วก็ฝังกองทัพของคนอียิปต์ไว้ในทะเลแดง ตอนนั้นคนอิสราเอลก็ร้องรำทำเพลงกัน..แต่ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่เนื้อเพลง..มันไม่เข้าหูซาอูล เพราะข้อที่7ร้องว่า..”ซาอูลฆ่าคนเป็นพัน แต่ดาวิดอ่ะ..ฆ่าคนเป็นหมื่น” อันนี้จริงรึเปล่าก็ไม่รู้..แต่ที่แน่ๆชัยชนะที่ดาวิดนำให้อิสราเอลชนะครั้งนี้..ดูแล้วมันเด็ดขาดกว่า..เพราะครั้งที่แล้วซาอูลไม่ยอมให้ทหารกินข้าว หลายๆอย่างเลยผิดพลาดไป
แล้วตอนนี้ซาอูลก็เหมือนคนมีปมในใจอ่ะ..ใครพูดผิดหูไม่ได้ อย่างนึงก็เพราะคำพยากรณ์ของซามูเอลด้วย แล้วยังจะมาได้ยินเพลงอย่างงี้อีกอีก..เลยหลุดปากพูดออกมาว่า..ถ้าดาวิดเก่งกว่า อีกหน่อยก็คงจะมาเป็นกษัตริย์แทนเขาล่ะสิ (ประมาณนั้น) แล้วข้อที่9 บอกว่า..จากนั้นมา ซาอูลก็จับตามองดาวิดตลอด (เพราะชักไม่ไว้ใจ)
ดู1ซมอ.18:10-11 ข้อนี้บอกว่า.. “ดาวิดกำลังดีดพิณถวาย และซาอูลที่ถือหอกอยู่ก็พุ่งหอกใส่..กะจะฆ่าให้ตาย แต่พลาดถึงสองครั้ง” ตรงจุดนี้เราคิดยังไง เด็กๆคิดยังไง..การที่ซาอูลพุ่งหอกใส่ดาวิดเนี่ย..โอเคข้อที่10 บอกชัดเจนว่า..วิญญาณชั่วเข้าสิงซาอูล เขาก็เลยเพ้อ..แต่อันนี้จะทำให้เขาพ้นข้อหาพยายามฆ่ารึเปล่า น้าตุ๊กจะบอกให้..ว่าไม่เลย เพราะซาอูลเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เขาไม่ได้วิกลจริตถาวร (จะมาแกล้งบ้าแล้วฆ่าคน มันไม่ใช่) แล้วพระคำภีร์ก็บอกเรา..ว่าความคิดชั่วทุกอย่าง ทั้งการล่วงประเวณี การเมาเหล้า การติดยา ความโลภ ความอิจฉาและกิเลสทุกๆอย่าง..มันมาจากเนื้อหนังของเราเอง..ไม่ได้มาจากมาร แล้วมารมีหน้าที่อะไร..มารเป็นได้แค่นักฉวยโอกาสที่ใช้ความบาปกับความอ่อนแอของเราเป็นสะพาน..ที่จะก้าวข้ามเข้ามาในชีวิตเรา..มันทำได้แค่ปลุกเร้าความบาปของเนื้อหนังให้รุนแรงขึ้นหรือเข้มข้นขึ้น..เท่านั้นเอง (แล้วมันจะบิ๊วท์ได้มากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานจิตใจของแต่ละคน) ในเรื่องความเชื่อก็เหมือนกัน..ความกลัวกับความสงสัยก็เป็นประตูนึง..ที่เปิดโอกาสให้มารเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตของเรา
เปิดไปดูกาลาเทีย5:16-19 เพราะฉะนั้น ในกรณีของซาอูลก็คือ..โอเค เขาคุ้มดีคุ้มร้ายอยู่แล้วเพราะมีวิญญาณชั่วมาสิง แต่เมื่อเขาอิจฉาดาวิด..อันนี้คือ”เนื้อหนังของเขาเอง” (ไม่เกี่ยวกับมาร ไม่เกี่ยวกับวิญญาณชั่ว ) แต่จุดนี้แหละ..ที่เปิดโอกาสให้มาร..”ได้สาดน้ำมันเข้ากองไฟ”..อาการคุ้มดีคุ้มร้ายของซาอูลเลยหนักขึ้น กลายเป็นอยากฆ่าคน เด็กๆเข้าใจมะ..ไอ้ที่เปลี่ยนเป็นอยากฆ่าคนเนี่ย..คือผลงานการเติมเชื้อของมาร
ดู1ซมอ.18:12-16 อาการหนักขึ้นทุกวัน ตอนนี้แทบจะทนเห็นหน้าดาวิดไม่ได้แล้ว..เลยอยากกำจัดไปให้พ้นหน้า..ใช้วิธีตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชากองพัน ดูเผินๆเหมือนซาอูลรักดาวิดมาก..เลื่อนยศให้ แต่ที่คิดในใจก็คือ..อยากส่งให้ไปตายหรืออย่างน้อยก็ไปอยู่ไกลๆจะได้ไม่ต้องเห็นหน้า แต่ข้อที่14บอกว่า ไม่ว่าดาวิดจะทำอะไรก็สำเร็จไปหมดเพราะพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเขา ประชาชนก็ยิ่งรักใคร่ชื่นชม..จนซาอูลแทบจะอกแตกตาย
ดู1ซมอ.18:17-18 ซาอูลยังไม่ละความพยายามที่จะกำจัดดาวิด พอแผนแรกไม่เวิร์คก็เลยจะให้ดาวิดไปอยู่ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เอาลูกสาวตัวเองมาล่อ..ตั้งข้อเสนอใหม่ให้ดาวิดต้องทำบางอย่างเพื่อแลกกับเมราบลูกสาวของตัวเอง ซาอูลใช้คำพูดน่าเชื่อถือมาก..คือยกพระเจ้ามาอ้าง(อีกแล้ว) เพราะข้อที่17 นี้ซาอูลพูดว่า..”ขอแต่เธอจงเป็นคนกล้าหาญ สู้ศึกของพระเจ้าเท่านั้น” แต่เราขอบพระคุณที่พระคำตอนนี้ไม่ได้บอกไว้แค่เปลือกนอกของซาอูล เพราะประโยคต่อไปบอกไว้ชัดเจนว่าซาอูลคิดอะไร “เราอย่าฆ่าดาวิดด้วยมือของตัวเองเลย เดี๋ยวจะเป็นที่ครหา..ยืมมือคนฟิลิสเตียฆ่ามันดีกว่า..น่าจะเนียนกว่าเยอะ” นี่คือสิ่งที่พระเจ้าบอกเรา เมื่อพระองค์ชันสูตรใจของซาอูล แต่ดาวิด..ก็ปฏิเสธข้อเสนอ ไม่ใช่เพราะกลัวตาย แต่เขาเจียมตัว ดาวิดพูดทำนองว่า..เขาเป็นแค่คนธรรมดา จะไปเป็นเขยของกษัตริย์ได้ไง
ดู1ซมอ.18:20-22 ลูกสาวอีกคนของซาอูลชื่อ”มีคาล” เกิดหลงรักดาวิด พอซาอูลรู้เข้าก็ดีใจมาก เพราะเป็นโอกาสจะทำแผนชั่วอีกครั้ง เพราะข้อที่21 ก็ยังบอกเราเหมือนเดิมว่า..ซาอูลแอบคิดในใจ..ว่าจะใช้ลูกสาวเป็นเดิมพัน แลกกับการให้ดาวิดไปเสี่ยงตายในสนามรบ คราวนี้ซาอูลส่งมหาดเล็กไปบิ๊วท์..พูดจาหว่านล้อมดาวิดให้ยอมมาเป็นเขยของกษัตริย์ แต่คำตอบก็ยังเหมือนเดิม เพราะดาวิดเจียมตัว ดาวิดบอกพวกมหาดเล็กว่า..การจะเป็นราชบุตรเขยเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ เขาไม่มีชื่อเสียงหรือทรัพย์สินอะไรเลย แล้วจะหาสินสอดที่ไหนให้สมหน้าสมตา
ดู1ซมอ.18:25-26 พอดาวิดพูดอย่างงั้น..ก็เข้าทางซาอูล เขาให้คนไปบอกดาวิดว่า..เขาไม่เอาสินสอดอะไรทั้งนั้น ดาวิดสบายใจได้ แต่ดาวิดต้องตอบแทนเขาด้วยวิธีอื่น..(อะไร?)..ไปเอาหนังหุ้มปลายองคชาติของพวกฟิลิสเตียมาให้เขาร้อยคน จริงๆหมายถึงจะเอาชีวิตพวกฟิลิสเตียน่ะแหละ(ซาอูลคงคิดว่า..คราวนี้ดาวิดไม่รอดแน่) แต่ข้อเสนอครั้งนี้..กลับทำให้ดาวิดสนใจ ชักอยากได้มีคาลมาเป็นภรรยา นอกจากได้ภรรยาแล้วดาวิดยังคิดว่านี่คือโอกาสที่จะได้รับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย เลยไม่รอช้ารีบลุกไปสู้กับพวกฟิลิสเตีย แทนที่ดาวิดจะถูกฆ่าตายอย่างที่ซาอูลแอบหวังไว้ในใจ ดันไปได้ปลายหนังองชาติมาถึงสองร้อย ขอแค่ร้อยเดียว..เกทับซะเลยเอาไปสองเท่า
ดู1ซมอ.18:28-30 ในที่สุดซาอูลต้องจำยอมรับดาวิดมาเป็นลูกเขย แถมลูกสาวเขาก็รักดาวิดมากซะด้วย ก่อนหน้านี้(โยนาธาน)ลูกชาย..ก็รักดาวิดเป็นเพื่อนร่วมตายมาคนนึงละ ตอนนี้ซาอูลเลยกลุ้มใจสุดๆ เพราะดาวิดเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นทุกวันแล้วก็เป็นที่รักของทุกคนด้วย ซาอูลเริ่มเห็นชัดเจน..ว่าพระเจ้าทรงสถิตกับดาวิดจริงๆ เพราะไม่ใช่แค่ฆ่าไม่ตาย..แต่ยิ่งคิดจะทำลายดาวิดก็ยิ่งเกิดผล ข้อที่29 ถึงบอกว่า..ตอนนี้ซาอูลรู้สึกกลัวดาวิดมาก จริงๆแล้วไม่รู้จะกลัวทำไม เพราะถ้าซาอูลลองคิดดูดีๆ เขาต้องมองเห็น..ว่าดาวิดเนี่ย..เป็นผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อที่สุด ถ้ารู้จักใช้..คนๆนี้จะยังทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้อีกเยอะ แต่เพราะความอิจฉา..เลยเห็นดาวิดเป็นคู่แข่ง ทั้งที่ความจริงดาวิดก็ยังเป็นแค่คนใต้บังคับบัญชา เรียกว่ากลัวล่วงหน้าไปซะงั้น
ซาอูลต้องการฆ่าดาวิดอย่างเปิดเผย
ดู1ซมอ.19:1-3 ซาอูลเป็นคนประเภทที่ไม่ชอบเป็นสองรองใคร เพราะฉะนั้น ความเก่งกล้าของดาวิดที่โดดเด่นขึ้นทุกวัน..เลยเป็นเหมือนหนามทิ่มแทงใจ อะไรที่มันเคยซ่อนอยู่ข้างใน ตอนนี้ซ่อนไม่ได้แล้ว..ซาอูลเลยสั่งให้คนรับใช้ใกล้ชิด รวมทั้งโยนาธานด้วย..ให้ฆ่าดาวิด แต่โยนาธานก็รักดาวิดมาก เขาเลยบอกดาวิดว่า..”เขาจะพูดกับซาอูลเอง..ให้พ่อเลิกล้มความตั้งใจที่ฆ่าดาวิด” กล้ามากก เพราะไร..การไปพูดขวางลำซาอูล..อาจถึงตายได้นะ โยนาธานเป็นลูกก็จริง แต่อย่าลืมว่าซาอูลก็ไม่ได้พิศวาทอะไรเขานักหนา..ตัวเองก็เคยถูกพ่อพยายามฆ่ามาแล้ว(จำได้มะ) แต่เพื่อดาวิด..โยนาธานยอมเสี่ยง แล้วนี่ก็คือ..แบบอย่างของการรักเพื่อนเหมือนรักตัวเอง
ดู1ซมอ.4-5 เราจะเห็นว่า..โยนาธานพูดกับซาอูลด้วยความเคารพ เขาพยายามชี้ให้พ่อเห็นคุณงามความดี..ความซื่อสัตย์ของดาวิด โยนาธานบอกซาอูล..ว่าเวลาที่ดาวิดประสบความสำเร็จ..ซาอูลที่เป็นกษัตริย์ก็จะพลอยได้รับประโยชน์ไปด้วย แล้วโยนาธานก็ลงท้ายว่าการจะเป็นศัตรูกับดาวิดเนี่ย..คงจะไม่ฉลาดเท่าไหร่ ที่แย่หนักกว่านั้น..มันจะเป็นบาปด้วย เพราะเป็นการกระทำให้โลหิตของผู้ไร้ความผิดตก (คือทำร้ายคนบริสุทธิ์) หลังจากที่โยนาธานพูดยืดยาว ชักแม่น้ำทั้งห้าก็ปรากฎว่า..ได้ผล ซาอูลยอมเลิกล้มความตั้งใจที่จะฆ่าดาวิด เขาให้สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะเลย ว่าตราบใดพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่เขาก็จะไม่ฆ่าดาวิด (แต่เขาก็รักษาสัญญาได้ไม่นาน)
ดู1ซมอ.19:8-10 ข้อนี้บอกว่า ดาวิดออกไปทำสงครามกับพวกฟิลิสเตียอีก แล้วก็ได้ชัยชนะกลับมา(อีกแล้ว) และพระคำภีร์ก็ต่อเนื่อง..ว่าวิญญาณชั่วก็มาสิงซาอูลอีก ดาวิดเลยต้องมาเล่นพิณให้ฟัง และอีกครั้งที่ซาอูลพยายามที่จะฆ่าดาวิด ข้อสิบบอกว่า..ซาอูลพุ่งหอกหมายปักดาวิดให้ติดผนัง แต่ดาวิดก็หนีรอดไปได้ สังเกตดูให้ดี..วิญญาณชั่วชักจะมาบ่อย โดยเฉพาะเวลาที่ดาวิดประสบความสำเร็จหรือมีชัยชนะเหนือศัตรู (ทำไมชอบมาตอนที่คนอื่นเขาได้ดี) ก่อนหน้านี้พระคำภีร์บอกว่า..เมื่อดาวิดเล่นพิณ วิญญาณชั่วก็พรากไป แต่พอช่วงหลังๆไม่ใช่แค่ไม่ไปนะ..มันครอบงำให้ซาอูลชั่วร้ายขึ้นกว่าเดิม เนี่ย..ชัดเลย ว่าความอิจฉากับความโกรธของซาอูลนี่แหละ..ที่เป็นสื่อให้มารเข้ามามีอิทธิพลในตัวเขาได้ (อย่างเต็มขนาด)
เพราะฉะนั้นการบังคับตนถึงสำคัญมาก เพราะเมื่อไหร่ที่เรายอมแพ้ต่อกิเลสของเนื้อหนัง..ไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม..มันเท่ากับเราเปิดโอกาสให้มารคืบคลานเข้ามาในชีวิต
ดู1ซมอ.19:11-13 ซาอูลยังไม่ละความพยายาม คงต้องฆ่าดาวิดให้ได้..เลยส่งคนไปสังเกตุการแถวๆบ้าน สั่งให้รอจนเช้าก่อนแล้วค่อยฆ่า..นี่เป็นอุบายที่จะทำให้ดาวิดตายใจ เพราะคิดว่าอยู่กะบ้านก็คงปลอดภัยละ แต่”มีคาล”ภรรยาของเขา รู้จักพ่อตัวเองดี..เลยบอกดาวิดว่าให้รีบหนีไปตั้งแต่คืนนี้เลย..ถ้าไม่อยากตาย ข้อที่12 บอกว่า..มีคาลส่งดาวิดลงทางหน้าต่าง แล้วก็เตรียมอุปกรณ์จัดฉากเสร็จสรรพ เอารูปเคารพมานอนแทนที่ดาวิด คือถ้ามองไกลๆคงเหมือนมีคนนอนอยู่
ดู1ซมอ.19:14-17 พอผู้สื่อสารของซาอูลมาเคาะประตู มีคาลก็บอกว่าดาวิดป่วย แต่ซาอูลไม่เชื่อ สั่งให้คนไปเอาตัวดาวิดมาคือจะฆ่าให้ได้ พอไปค้นที่นอนถึงรู้ว่าถูกหลอก..ซาอูลโกรธจนหน้าเขียว แต่มีคาลหลอกพ่อว่าไร..เธอจำเป็นต้องร่วมมือ ไม่อย่างงั้นก็จะถูกดาวิดฆ่า
ดู1ซมอ.19:18-20 มีคาลถ่วงเวลาได้ผลนะ เพราะดาวิดไปไกลถึงเมืองรามาห์จนได้เจอกับซามูเอล แล้วก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ซามูเอลฟัง ส่วนซาอูลก็ไม่เลิกลา..ให้คนไปตามจับดาวิดที่รามาห์ แต่พอคนของซาอูลไปถึงพระคำภีร์บอกว่า..พระวิญญาณของพระเจ้าก็มาสถิตกับเขา แทนที่จะจับดาวิด..ก็ไม่จับกลับไปเผยพระวจนะแทน ซาอูลก็ไม่ยอมแพ้ส่งคนไปใหม่..ถึงสามครั้ง แต่ทุกครั้งก็เหมือนเดิม ทุกคนที่ซาอูลส่งไปถูกพระเจ้าควบคุม..ไม่มีใครจับดาวิดเลยทุกคนเอาแต่เผยพระวจนะ
ดู1ซมอ.19:23-24 ซาอูลยังไม่ยอมเข้าใจ..ว่าถึงจะพยายามไปก็ไร้ประโยชน์ ก็เลยตั้งใจจะไปจัดการดาวิดด้วยตัวเอง แต่พอเริ่มเข้าใกล้ดาวิด..พระวิญญาณพระเจ้าก็มาสถิตเหนือซาอูล คือ..เข้าควบคุมทั้งความคิดและการกระทำ ซาอูลก็เลยเผยพระวจนะ แล้วก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองนอนเปลือยกายอยู่ต่อหน้าซามูเอลทั้งวันทั้งคืน คำเล่าลือเรื่องความเพี้ยนของซาอูลคงจะกระฉ่อนไปทั่ว เรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่า..ไม่มีใครสามารถฆ่ากษัตริย์ที่พระเจ้าเจิมไว้ได้ ในบริบทนี้ก็คือ”ดาวิด”
แล้วคุ้นๆมะ เหมือนใครที่โดนตามฆ่าอย่างเงี้ย..พระเยซูคริสต์ไง กษัตริย์ของมนุษยชาติที่พระเจ้าเจิมไว้และทุกคนต้องยอมรับถ้าอยากได้รับความรอด ดาวิดเป็นเหมือนเงาของพระคริสต์ที่พระเจ้าสำแดงให้เราเห็น
ที่สุดแล้วต้องบอกว่าซาอูลสิ้นคิดมากจริงๆ ที่พยายามจะฆ่าดาวิด เพราะพระเจ้าไม่ได้เลือกดาวิดให้เป็นแค่กษัตริย์ของอิสราเอลเท่านั้น แต่พระองค์เลือกเขาให้เป็นต้นตระกูลของพระเมสสิยาห์..คือเยซูคริสต์ของเราด้วย ซาอูลคงต้องหน้ามืดตามัวจริงๆ..เพราะแค่สองบทนี้..เขาพยายามจะฆ่าดาวิดถึงสิบสองครั้ง
ดู1ซมอ.20:1-2 ดาวิดตัดสินใจหนีมาหาโยนาธาน เพื่อเล่าเรื่องที่ซาอูลตามฆ่าเขาให้โยนาธานฟัง เราจะเห็นว่า..ดาวิดใช้คำพูดที่แสดงถึงความถ่อมใจอย่างมาก ข้อที่1 ดาวิดเพียงแต่ถามโยนาธานว่า..เขาทำผิดหรือทำบาปอะไร ซาอูลถึงต้องทำกับเขาขนาดนี้ ดาวิดไม่ได้กล่าวหาหรือใช้คำพูดโจมตีซาอูลเลย..ทั้งที่ถูกกระทำอย่างหนัก ตอนแรกโยนาธานก็ไม่เชื่อ เพราะเขาคิดว่าถ้าพ่อมีแผนจะฆ่าดาวิดจริงๆ..เขาก็น่าจะรู้เพราะเขาเป็นลูก (นี่โยนาธานเข้าใจอะไรผิด หรือสำคัญตัวเองพลาดไปรึเปล่า)
ดูต่อ1ซมอ.20:3-4 ดาวิดบอกว่า..ที่ซาอูลไม่บอกแผนที่จะฆ่าเขาให้โยนาธานรู้ ก็เพราะเราเป็นเพื่อนรักกัน ซาอูลเลยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แล้วดาวิดก็ยืนยันว่า..ตอนเนี้ย เขากำลังอยู่ในอันตรายนะ ความตายห่างเขาแค่ก้าวเดียวเพราะซาอูลเอาจริง โยนาธานถึงเชื่อแล้วก็รับปากจะช่วยดาวิดเต็มที่ ดาวิดก็เลยวางแผน..คือพรุ่งนี้จะเป็นวันดวงจันทร์เต็มดวง ซึ่งเป็นวาระที่ต้องถวายสัตวบูชา ซึ่งดาวิดจะต้องอยู่ด้วยเพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ดาวิดบอกว่าเขาจะไม่มา แล้วดูว่าซาอูลจะโกรธมั๊ย ถ้าโกรธแปลว่า..อยากหาเรื่อง
ดู1ซมอ.20:8-9 ข้อนี้ดาวิดพูดเหมือนโยนาธานเป็นเจ้านาย แล้วตัวเองเป็นคนรับใช้ ซึ่งจริงๆก็ถูกนะ เพราะตอนนั้นโยนาธานยังเป็นโอรสของกษัตริย์ ดาวิดบอกว่า..ถ้าโยนาธานพบว่าเขาทำผิดอะไร ขอให้โยนาธานเป็นคนฆ่าเขาเอง โยนาธานตกใจ..แล้วบอกว่า ถ้าเขารู้ว่าดาวิดถูกปองร้ายเขาต้องบอกดาวิดแน่ แล้วเขาก็ไม่มีวันฆ่าดาวิดด้วย
ข้อที่ 10 ดาวิดบอกว่า..”ถ้าเสด็จพ่อตอบท่านอย่างดุดัน ใครจะมาบอกแก่ข้าพเจ้าได้” หมายความว่าไง “ตอบอย่างดุดัน” พูดง่ายๆก็คือถ้าซาอูลเกิดฆ่าโยนาธานล่ะ..ใครจะมาเตือนดาวิด (โอโห..ดาวิดพูดเพราะจัง..”ถ้าเสด็จพ่อตอบอย่างดุดัน”) เพราะจริงๆก็คือ..ถ้าเขาฆ่าyouล่ะ มันเป็นไปได้นะ..โยนาธานก็รู้..เพราะซาอูลทำทุกอย่างเพื่อตัวเองได้อยู่แล้ว
ดู1ซมอ.20:11-12 มาถึงตรงนี้ โยนาธานเริ่มระแวง..กลัวจะมีใครแอบฟังเขาคุยกับดาวิด เลยชวนกันไปคุยในทุ่งนา แล้วโยนาธานก็สัญญาว่าในช่วงงานเทศกาลสามวันนี้ เขาจะส่งข่าวให้ดาวิดรู้แน่นอน..ว่าซาอูลมีท่าทียังไง ถ้าดูแล้วอารมณ์ดีไม่ได้มีท่าทีร้ายกาจก็จะให้คนไปบอก แต่ถ้าอาละวาดจะเอาเรื่องดาวิด โยนาธานก็ต้องส่งข่าวไปแน่นอน..ดาวิดจะได้หนีทัน แล้วข้อที่13 โยนาธานก็ออกปากสาบานในนามพระเจ้า..ว่าถ้าเขาผิดคำพูด ขอให้พระเจ้าลงโทษแล้วให้เขาเป็นเหมือนซาอูลที่ถูกวิญญาณชั่วสิง
ดู1ซมอ.20:14-16 โยนาธานขอคำมั่นสัญญาบางอย่างจากดาวิด ขออะไร..ขอให้ดาวิดจำไว้นะ..ว่าเราเป็นเพื่อนร่วมสาบาน คำว่า”เมื่อพระเจ้าทรงกำจัดศัตรูทั้งสิ้นของดาวิดเสียจากผิวพิภพแล้ว..” (หมายความว่าไร) โยนาธานหมายถึง ถ้าดาวิดได้ครองบัลลังก์เมื่อไหร่..ขอให้ไว้ชีวิตเขาและพงพันศ์ของเขาด้วย ทำไมโยนาธานถึงพูดอย่างงี้..เขามั่นใจมากๆว่า ดาวิดจะไม่ตายแล้วต้องได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอลด้วย โยนาธานเลยอยากได้ความมั่นใจ..ว่าเขากับลูกหลานจะไม่ถูกกำจัด เพราะทั่วๆไป..ไม่ว่าประเทศไหน ถ้ามีการล้มล้างหรือเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่ กษัตริย์องค์ใหม่ก็มักจะฆ่าล้างเผ่าพันธ์ราชวงศ์เดิมจนหมดเกลี้ยง..เพื่อความปลอดภัยของราชบัลลังก์ (อันนี้ถือเป็นเทรดดิชั่นเลย)
ดู1ซมอ.20:20-22 โยนาธานเริ่มวางแผน เขาบอกให้ดาวิดหลบอยู่สามวัน หลังจากนั้นให้ออกไปซ่อนตัวในทุ่งนา แล้วโยนาธานจะส่งสัญญาณให้รู้คำตอบ โดยเขาจะยิงธนูสามลูก แล้วสั่งให้เด็กออกไปหาลูกธนู ถ้าโยนาธานสั่งให้เด็กไปเก็บลูกธนูที่อยู่ข้างๆ ข้างไหนก็ตามแล้วแต่จะบอก แปลว่า..ปลอดภัย แต่ถ้าเขาบอกเด็ก..ว่าจงไปเก็บลูกธนูที่อยู่ตรงหน้าเจ้า ก็ให้ดาวิดเข้าใจเลยว่า..ซาอูลจะฆ่าเขา และให้รีบหนีไป
น้าตุ๊กฝากไว้แค่นี้ก่อนนะคะ พบกันสัปดาห์หน้าค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น