วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

หนังสือ 2 พงศ์กษัตริย์ ครั้งที่ 5 อาทิตย์ที่ 15:1:2012

คราวก่อนเราจบลงที่เรื่องราวของก.เบนฮาดัดแห่งซีเรีย..ที่กำลังป่วย พอรู้ข่าวว่า”เอลีชา”มาที่ดามัสกัส..เบนฮาดัดก็ใช้คนสนิทที่ชื่อ”ฮาซาเอล” ให้มาถามเอลีชาว่าเขาจะหายป่วยมั๊ย แล้วน้าตุ๊กก็ย้อนไปพูดถึงบทบาทของฮาซาเอลที่พระคำภีร์กล่าวถึง..ไว้ก่อนหน้านี้ใน1พกษ.19ตอนที่เอลียาห์กลับมารับใช้พระเจ้าอีกครั้งหลังจากที่หนีเยเซเบลไปอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ตอนนั้นพระเจ้าใช้ให้เอลียาห์ไปเจิมตั้งคน 3 คน แล้วคนแรกก็คือ “ฮาซาเอล” นี่และ..ที่เบนฮาดัดกำลังใช้ไปหาเอลีชา พระเจ้าให้เอลียาห์เจิม”ฮาซาเอล”เป็นกษัตริย์ของซีเรียเรียบร้อยแล้ว ท้ายสุดของคราวที่แล้วใน 2พกษ.8:9 บอกว่า “ฮาซาเอลจึงไปพบเอลีชา พร้อมทั้งนำของกำนัลไปด้วย คือสินค้าอย่างดีทุกอย่างของเมืองดามัสกัส แล้วพอเจอเอลีชา ฮาซาเอลก็บอกว่า เบนฮาดัดให้มาถามเอลีชาว่า เขาจะหายป่วยมั๊ย” มาดูต่อกันว่าเอลีชาจะตอบว่ายังไง...

ดู 2 พกษ.8:10-11 เอลีชาบอกฮาซาเอลว่า “พระเจ้าให้ไปบอกกษัตริย์ว่า..เขาจะหาย แต่สิ่งที่เอลีชาเห็น คือ เบนฮาดัดจะตาย..” จากนั้น เอลีชาก็จ้องหน้าฮาซาเอลแบบกดดันมากๆ จนฮาซาเอลรู้สึกอึดอัด..ซักพักเอลีชาก็ร้องไห้ ฮาซาเอลก็ตกใจถามเอลีชาว่า..ร้องไห้ทำไม ข้อที่ 12 เอลีชาบอกว่า "เพราะข้าพเจ้าทราบถึงเหตุร้ายซึ่งท่านจะกระทำต่อประชาชนอิสราเอล ท่านจะเอาไฟเผาป้อมปราการของเขาเสีย และท่านจะสังหารคนหนุ่มๆเสียด้วยดาบ และจับเด็กๆโยนลง และผ่าท้องหญิงที่มีครรภ์เสีย" คือ เอลีชาเห็นนิมิตรที่คนอิสราเอลจะถูกข่มเหง..โดย “ฮาซาเอล” คนนี้..ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้..เอลีชาถึงร้องไห้ ในข้อนี้จึงเป็นการพยาการณ์ของเอลีชาถึงสิ่งที่ฮาซาเอลจะกระทำต่อชนชาติอิสราเอลในอนาคต แต่ถามว่า..เมื่อเอลีชาเห็นแล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น เอลีชาเลยเปลี่ยนใจจะไม่ทำหรือเผยพระวจนะตามพระเจ้าสั่งได้มั๊ย..เอลีชาจะหาทางฆ่าฮาซาเอลทิ้งหรือไปบอกให้เบนฮาดัดรู้ตัว เพื่อแก้ไขหรือเปลี่ยนสถานการณ์อะไรต่างๆได้หรือเปล่า..ไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น..จะเลวร้ายหรือรุนแรงขนาดไหน เอลีชาก็ต้องยอมจำนน เพราะนั่นคือ “พระประสงค์ของพระเจ้า” อาจจะเหมือนบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา ซึ่งไม่ว่าจะดูเลวร้ายหรือทุกข์ยากขนาดไหน ขอให้เราระลึกไว้เสมอว่าพระเจ้าเป็นผู้อนุญาตให้มันเกิดขึ้นเพื่อที่น้ำพระทัยของพระองค์จะสำเร็จในชีวิตเรา และนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราเมอ เอลีชาถึงได้แต่ร้องไห้..รู้ว่ามันต้องดี แต่ตอนนี้มันดูน่ากลัวและผ่านยากเหลือเกิน จะไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น เรื่องไหนที่เรารู้สึกไม่ไหว สิ่งที่ทำได้ก็คือ ร้องไห้กับพระเจ้า ขอพระเจ้าเสริมกำลัง..เหมือนเอลีชา ไม่ใช่ตัดพ้อต่อว่าหรืองอนพระเจ้า..ร้องไห้ได้แต่อย่าบ่นนะคะ..

ดู 2พกษ.8:13 "ผู้รับใช้ของท่านผู้เป็นแต่เพียงสุนัขเป็นใครเล่า ซึ่งจะกระทำสิ่งใหญ่โตนี้" พอฮาซาเอลฟังคำพยากรณ์ของเอลีชา..เขาก็พูดประมาณว่า เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเขาเป็นใคร..เป็นแค่สุนัขรับใช้จะไปทำเรื่องใหญ่ขนาดนั้นได้ไง สิ่งนึงที่เราต้องไม่ลืม ก็คือ ฮาซาเอลเขารู้ตัวแล้ว..ว่าต่อไปเขาจะได้เป็นกษัตริย์ของซีเรียเพราะเอลียาห์มาเจิมเขาแล้ว แต่ฮาซาเอลก็ยังไม่เชื่อ..ว่าตัวเองจะทำเรื่องน่ากลัวขนาดนั้นได้ เพราะอะไร..เพราะเขายังไม่ได้ยืนอยู่ในจุดนั้นจริงๆ..จุดที่มีอำนาจล้นมือ เพราะงั้น หลายครั้งคนเราเลยชอบวิจารณ์ผู้นำ เราชอบคิดว่า..ถ้าเป็นเรา..เราจะไม่ทำอย่างงั้น เราจะไม่ทำอย่างงี้ เราจะทำได้ดีกว่าถ้าเรามีโอกาสหรือได้ยืนอยู่ตรงนั้น..ซึ่งไม่จริงเลย แล้ววิทยาศาสตร์ทุกวันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าในเวลาที่มนุษย์ประสบความสำเร็จ.. มนุษย์หลั่งฮอร์โมนตัวนึงออกมา..เรียกง่ายๆว่าเป็นฮอร์โมนที่ทำให้มนุษย์เกิดความเย่อหยิ่ง ซึ่งจะทำให้มนุษย์..คิดต่างไปจากตอนที่เขายังไม่ประสบความสำเร็จ มีภาษิตฝรั่งอันนึงที่บอกว่า ”บางคนเป็นคนดีอยู่ได้ เพราะขาดอำนาจในมือที่จะทำชั่ว” แปลง่ายๆว่า “ถูกสถานการณ์บังคับให้เป็นคนดี” แล้วใครเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์..”พระเจ้า” น้าตุ๊กถึงอยากจะหนุนใจเด็กๆหลายครั้ง..ว่าเราบางคนยากจนก็ดีแล้ว เป็นคนธรรมดาสามัญก็ดีที่สุด พระเจ้าให้เราอยู่จุดไหน..จุดนั้นต้องดีที่สุดสำหรับเรา เพราะพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่า “อะไรจะเกิดขึ้น..ถ้าเราร่ำรวยหรือมีอำนาจล้นมือ” ตัวเราเอง..ไม่รู้หรอก (..เหมือนฮาซาเอล) พระธรรมข้อนี้จึงสอนให้เราระวังความคิดและจิตใจของเราในทุกย่างก้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..ในเวลาที่ประสบความสำเร็จ ในเวลาที่ทุกอย่างดูเหมือนจะได้ดั่งใจไปหมด..ก็ให้เรารู้ทันว่า นั่นคือจุดที่อันตรายกว่าปกติ ณ.จุดนั้นไม่ใช่ว่าเราไม่ต้องการพระเจ้า แต่เรากลับต้องการพระเจ้ามากขึ้น..ต้องติดสนิทมากกว่าเดิม

ดู 2พกษ.8:14-15 ข้อนี้ บอกว่า ฮาซาเอลก็กลับไปบอกเบนฮาดัด อย่างที่เอลีชาพูด แต่สุดท้ายในข้อที่ 15 ฮาซาเอลก็ลอบสังหารเบนฮาดัด เพราะรอไม่ไหว..รู้ตัวแล้วว่าจะได้เป็นกษัตริย์ของซีเรีย แล้วจิตใจก็ฮึกเหิมจนเอาไม่อยู่..รอไม่ไหว เลยลอบฆ่าเบนฮาดัด ฮาซาเอลไม่เหมือนดาวิด..ที่เมื่อพระเจ้าเจิมเขาให้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ดาวิดรอนานมาก แล้วหลายครั้งที่มีโอกาสฆ่าซาอูลแต่ดาวิดไม่ทำ..ไม่ทำจนลูกน้องขัดใจ เพราะไร..ซาอูลตามล่าดาวิดอย่างเอาเป็น..เอาตาย แต่เมื่อดาวิดมีโอกาสบ้างเขากลับไม่ฆ่าซาอูล ปล่อยให้ซาอูลลอยนวลไปแล้วกลับมาตามล่าตัวเองอยู่ซ้ำแล้ว..ซ้ำเล่า “แต่สิ่งที่ดาวิดทำเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า” แล้วถ้าเป็นเรา..เราจะเลือกทำแบบใคร (..แบบฮาซาเอล รึเปล่า สมมติตอนนี้ตำแหน่งเราก็จ่อรอจะขึ้นเป็นผู้บริหารละ เพราะฉะนั้น..ทำไง ทำแบบฮาซาเอล..หาทางกำจัดคนเก่าให้พ้นทางไปเร็วๆ หรือ ทำแบบดาวิด.. คือ รอเวลาของพระเจ้า เมื่อไหร่..ก็เมื่อนั้น เพราะเวลาของพระเจ้าลงตัวและสมบูรณ์แบบที่สุด) สุดท้ายในข้อที่ 15 บอกว่าในที่สุด ฮาซาเอลก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของซีเรีย

ดู 2พกษ.8:16-17 ข้อนี้ พระคำภีร์กลับไปพูดถึงอาณาจักรยูดาห์ ที่เรารียนผ่านมาก่อนหน้านี้ คือ เรื่องราวของอิสราเอลฝ่ายเหนือ ตอนนื้พระคำภีร์กลับมาที่อาณาจักรยูดาห์ บอกว่า..เยโฮรัม กับ เยโฮชาฟัท ได้ครองบัลลังก์พร้อมกัน และเมื่อเยโฮชาฟัทยังเป็นกษัตริย์ของยูดาห์อยู่ เยโฮรัมโอรสเยโฮชาฟัทกษัตริย์ของยูดาห์ก็ได้เริ่มครอบครอง อย่างง..คือ เยโฮชาฟัทมีลูกชื่อ เยโฮรัม เหมือนกษัตริย์ของอิสราเอล คือ สององค์นี้ชื่อเหมือนกันแล้วก็ได้ครองราชย์ในเวลาไล่เลี่ยกันด้วย แต่ประเด็นสำคัญที่พระคำข้อนี้จะกล่าวถึงมันอยู่ในข้อที่ 18 คือ “และพระองค์ทรงดำเนินตามมรรคาของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล ตามอย่างที่ราชวงศ์อาหับกระทำ เพราะว่าธิดาของอาหับเป็นมเหสีของพระองค์ และพระองค์ทรงกระทำชั่วในสายพระเนตรของพระเจ้า” ..คือ เยโฮชาฟัทเองเป็นกษัตริย์ที่รักพระเจ้า เดินตามพระเจ้า แต่ความผิดพลาดของเขาคือ “ให้ลูกชาย ที่ชื่อเยโฮรัม นี้..ไปแต่งงานกับลูกสาวของอาหับและเยเซเบล” แล้วเยเซเบลก็เชื้อแรงมาก เพราะเมื่อเยโฮรัมขึ้นครองอาณาจักรยูดาห์แทนพ่อแล้ว “อาธาลิยาห์”ลูกสาวของเยเซเบลที่ตอนนี้ได้เป็นพระราชินีของยูดาห์ก็ทำเหมือนแม่เลย คือเอาพระบาอัลเข้ามาเผยแพร่ในยูดาห์ ทำให้อาณาจักรเริ่มตกต่ำลง

ดู 2พกษ.8:25-26 เมื่อเยโฮรัมแห่งยูดาห์สิ้นพระชนม์ ลูกชายชื่อ”อาหัสยาห์”ก็ขึ้นครองยูดาห์แทนพ่อ อาหัสยาห์คนนี้ก็คือลูกของอาธาลิยาห์ หรือให้เข้าใจง่าย คือ เขาเป็นหลานตาหลานยายของอาหับกับเยเซเบล..พอคิดออกใช่มั๊ยคะ พระคำภีร์บอกว่าพออาหัสยาห์ขึ้นครองยูดาห์เขาก็เอาญาติพี่น้องที่อยู่อิสราเอลฝ่ายเหนือเข้ามาอยู่ในเยรูซาเล็ม แล้วก็เผยแพร่ความชั่วตามแบบของอาหับกับเยเซเบลไปทั่วยูดาห์ ข้อที่ 28 บอกว่า อาหัสยาห์เข้าร่วมกับเยโฮรัมไปทำสงครามกับฮาซาเอล ที่ตอนนี้เป็นกษัตริย์ของซีเรีย แต่ปรากฎว่า เยโฮรัมบาดเจ็บเลยต้องถอยกลับมารักษาตัวที่ยิสเรเอล

ดู 2พกษ.9:1-2 พอเยโฮรัมบาดเจ็บหลังจากที่ไปรบกับพวกซีเรีย เอลีชาก็เริ่มเห็นเค้าโครงว่า “เหตุการณ์กำลังจะเป็นไปตามที่พระเจ้าพูดไว้” เขาก็เลยรีบไปทำภาระกิจอีกอันให้สำเร็จ ก็คือ ไปเจิมตั้ง”เยฮู” ให้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ข้อนี้ เอลีชาสั่งให้ผู้เผยพระวจนะหนุ่มซึ่งเป็นลูกศิษย์ของเขาให้เอาน้ำมันไป..แล้วก็ไปเจิม”เยฮู” เยฮู คือ 1ใน3 คนที่พระเจ้าสั่งให้เอลียาห์ไปเจิมตั้ง แต่เอลียาห์คงถูกรับไปก่อน มาตอนนี้เอลีชาเลยรับหน้าที่นี้แทน ขณะนั้น..เยฮูเป็นแม่ทัพใหญ่ของอิสราเอล..กำลังรบอยู่กับทหารของซีเรียในดินแดนกิเลอาด พอผู้เผยพระวจนะไปถึง เขาก็บอกเยฮูว่า “เขามีธุระด่วนกับเยฮู เสร็จแล้วก็พากันเข้าไปในห้องชั้นใน แล้วผู้เผยพระวจนะก็เทน้ำมันบนศีรษะของเยฮู แล้วก็พูดว่า "พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราเจิมตั้งเจ้าไว้เป็นกษัตริย์เหนือประชาชนของพระเยโฮวาห์คือเหนืออิสราเอล” เสร็จแล้วก็..กลับเลย..(เจิมเสร็จปุ๊บ..กลับเลย) เพราะข้อที่ 3 เอลีชาสั่งไว้..ว่าพอเจิมเสร็จแล้วให้รีบกลับ (เดี๋ยวจะมีการนองเลือดเกิดขึ้น) และเมื่อเยฮูบอกเรื่องนี้กับบรรดาทหารที่อยู่กับเขา ก็ปรากฎว่า ทุกคนยอมรับเยฮูทันที แล้วก็พร้อมใจกันร้องสรรเสริญพระราชา..

ดู 2พกษ.9:16-17 หลังที่ได้รับการเจิม.. เยฮูพร้อมด้วยกองทหารที่ร่วมกันกบฎ ก็มุ่งหน้าไปที่ยิสเรเอล จะไปฆ่าเยโฮรัมกษัตริย์ของอิสราเอลที่ตอนนั้นยังป่วยอยู่เพราะถูกทหารซีเรียยิง พอไปถึงเยโฮรัมก็ใช้ให้ทหารไปถามเยฮูว่า”ท่านมาอย่างสันติหรือ” (..มาดีใช่มั๊ย) แต่เยฮูตอบว่าไร..เยฮูตอบว่า “ท่านเกี่ยวข้องอะไรกับสันติ จงเลี้ยวกลับตามเรามา.." คือ เยฮูตอบกลับไปแบบอยากมีเรื่องอ่ะ..ประมาณว่าคนอย่างท่านเคยสนใจหรือเคยเรื่องดีๆด้วยหรือ ข้อที่ 21 บอกว่า เยโฮรัมกับอาหัสยาห์เลยออกไปปะทะกับเยฮู ที่ไหน..ตรงที่ดินแปลงของนาโบทชาวยิสเรเอล (นาโบทที่ถูกอาหับกับเยเซเบลวางแผนฆ่า แล้วก็ริบเอาที่ดินไป..จำได้มั๊ย) แล้วเมื่อเผชิญหน้ากันปรากฎว่า “เยโฮรัม หรือ โยรัม..ก็ถูกเยฮูฆ่าตาย ข้อที่ 24 บอกว่าเยฮูโก่งธนูด้วยสุดกำลัง ยิงถูกเยโฮรัมระหว่างพระอังสาทั้งสอง ก็คือ ระหว่างบ่าทั้งสองข้าง แล้วลูกธนูก็แทงทะลุหัวใจ..”

ส่วนอาหัสยาห์ก็ถูกฆ่าเหมือนกัน เพราะบังเอิญมาอยู่ในเหตุการณ์ เยฮูยิงอาหัสยาห์ในรถรบ อาหัสยาห์ไม่ได้ตายทันทีแต่หนี..แล้วไปตายที่เมกิดโดซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของยูดาห์ จากนั้น เขาก็เอาศพอาหัสยาห์กลับมาฝังที่เยรูซาเล็ม..

ดู 2พกษ.9:30-31/32-33 ตอนนี้ถึงคิวของเยเซเบลบ้าง เพราะเยฮูกำลังมีจิตใจที่ร้อนรนมากๆ ในการที่จะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า แล้วผู้เผยพระวจนะก็บอกเขาไว้ ในข้อที่ 7 ว่า”พระเจ้าจะใช้ให้เขาเป็นคนกำจัดเยเซเบลกับราชวงศ์ของอาหับ เยฮูเลยควบม้ามาที่เมืองยิสเรเอล..ที่พระราชวังของเยเซเบล..ตอนนั้น เยเซเบลอยู่ที่ชั้นสอง พอเยฮูไปถึง..เขาก็ร้องหาพวกเลย ประมาณว่าถ้าใครจะอยู่ฝ่ายเขา..ก็ให้จับเยเซเบลโยนลงมา ปรากฎว่า..มีขันที 2-3 คนจับเยเซเบลโยนมาจากหน้าต่างชั้นบน..ตกลงมาเลือดสาด แล้วเยฮูก็ขี่ม้าทับไปบนร่างของเยเซเบลอีกที เพื่อให้แน่ใจว่า..”ตายแน่” จากนั้นเยฮูก็เข้าไปดื่มกินอย่างสบายใจในพระราชวัง ผ่านไปไม่นานเขาก็สั่งให้ทหารเอาร่างของเยเซเบลไปฝัง ปรากฎว่า พอกลับมาดูอีกที..แทบไม่มีอะไรเหลือแล้ว เหลือแต่กะโหลก..กับมือแล้วก็เท้า ส่วนอื่นๆของร่างกายสุนัขเอาไปรับประทานหมดแล้ว อันนี้ก็ทำให้ตรงตามพระวจนะของพระเจ้าที่ตรัสพิพากษาเยเซเบลไว้ ใน 1พกษ.21:23 ว่า”ส่วนเยเซเบล `สุนัขจะกินเยเซเบลข้างกำแพงยิสเรเอล' ตอนนี้ เยเซเบลกินผลที่ตัวเองทำกับพระเจ้าไปเรียบร้อยแล้ว นี่คือ ชะตากรรมที่น่าสยดสยอง..สำหรับคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้า

ดู 2พกษ.10:3-4 คือ ตอนนี้เยฮูกำลังไฟแรงแบบสุดๆ หลังจากที่เขาฆ่าอาหับกับเยเซเบลแล้ว มาตอนนี้เขาก็ส่งจดหมายไปที่สะมาเรีย..บอกพวกข้าราชการผู้ใหญ่ว่า”ให้ตั้งโอรสของอาหับขึ้นมาคนนึง..ใครก็ได้ที่อยู่ในราชวงศ์ของอาหับ..แล้วให้มาสู้กับเขา” คือ เยฮูท้าดวลเลย แต่ไม่มีใครกล้า..พวกเขาบอกว่า“ดูเถิดกษัตริย์สององค์ยังต้านทานพระองค์ไม่ได้แล้ว เราจะต่อสู้พระองค์ได้อย่างไร”..ทั้งเยโฮรัม และ อาหัสยาห์ยังถูกเยฮูฆ่าตายทั้งคู่..แล้วใครจะกล้าไปสู้กับเขา ในเมื่อไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย ผู้ใหญ่ที่ดูแลบ้านเมืองอยู่ในตอนนั้นเลยส่งจดหมายกลับมาตอบเยฮูว่า "ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ และจะกระทำทุกอย่างที่พระองค์ตรัสสั่ง แล้วก็จะไม่ตั้งผู้หนึ่งผู้ใดขึ้นมาเป็นกษัตริย์ ขอให้ทรงกระทำตามที่ชอบพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์เถิด”...แปลว่ายอมแพ้ เยฮูอยากทำอะไร..ทำตามใจชอบได้เลย เมื่อไม่มีใครแข็งข้อกับเยฮู ข้อที่ 6 เยฮูเลยส่งจดหมายไปถงสำนักพระราชวังอีกฉบับนึงใจความว่า “ถ้าจะอยู่ฝ่ายเขา ก็ให้ตัดคอโอรสทั้ง 70 คนของอาหับ..รวมทั้งญาติมิตรทุกคนมาบรรณาการเขา คือ เยฮูต้องการจะกำจัดราชวงศ์ของอาหับอย่างถอนรากถอนโคน แล้วก็ปรากฎว่าทางสำนักพระราชวังก็ยอมทำตามที่เยฮูต้องการ คือ ตัดหัวลูกทุกคนของอาหับแล้วก็เอาใส่ตระกร้าส่งไปให้เยฮูที่ยิสเรเอล

ดู 2พกษ.10:18-19 หลังจากที่ทำลายราชวงศ์ของอาหับกับเยเซเบลแล้ว เยฮูก็เดินหน้ากวาดล้างลัทธิพระบาอัลในสะมารีย ด้วยวิธีไหน..ข้อที่ 18 เยฮูประกาศออกไปว่า “อาหับปรนนิบัติพระบาอัลแต่เล็กน้อย แต่เยฮูจะปรนนิบัติพระองค์มาก” คือ เยฮูทำทีว่าเขาจะสนับสนุนการกราบไหว้พระบาอัลในสะมาเรียให้กว้างขวางกว่าเดิม แล้วก็เรียกให้บรรดาปุโรหิตของพระบาอัลมาประชุมกัน ข้อที่ 19 เยฮูบอกว่า “..อย่าให้ผู้ใดขาดไปเลย เพราะเราจะมีสัตวบูชาอย่างใหญ่โตที่จะถวายแก่พระบาอัล ผู้ใดขาดจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้” เยฮูออกข่าวไปว่าเขาจะทำการนมัสการพระบาอัลครั้งใหญ่ที่สุด เพราะฉะนั้น ปุโรหิตทุกคนต้องมา..การถวายบูชาครั้งนี้สำคัญมากห้ามใครขาดแม้แต่คนเดียว ปรากฎว่า..มากันพร้อมหน้า ทุกคนเข้าใจว่าเยฮู..คงจะสนับสนุนการไหว้พระบาอัลจริงๆก็เลยทำสิ่งเหล่านี้ แต่จริงๆแล้ว..ไม่ใช่ นี่คือ แผนของเยฮูที่จะล่อทุกคนที่เกี่ยวข้องกับพระบาอัลให้มาอยู่รวมกันในวิหาร แล้วหลังจากที่ปุโรหิตพระบาอัลมารวมกันครบทุกคนแล้ว ข้อที่ 23 เยฮูยังบอกว่า “จงค้นดู ดูให้ดีว่าไม่มีผู้รับใช้ของพระเยโฮวาห์อยู่ในหมู่พวกท่าน ให้มีแต่ผู้นับถือพระบาอัลเท่านั้น”... เยฮูต้องการจะกวาดล้างคนของพระบาอัลให้สิ้นซากโดยที่อยากแน่ใจว่า..ไม่มีคนของพระเจ้าเข้ามาโดนลูกหลงด้วย ..รอบคอบมาก

ดู 2พกษ.10:25 ข้อที่ 24 บอกว่า “.. เยฮูทรงวางคนแปดสิบคนไว้ภายนอก” คือ ทหารที่เขาเตรียมไว้กำจัดคนของพระบาอัลที่จะมาประชุมพร้อมกันในวันนี้ และเมื่อการถวายเครื่องบูชาเสร็จสิ้นลง เยฮูก็เริ่มทำตามแผนทันที..เขาสั่งให้ทหารเข้าไปฆ่าปุโรหิตของพระบาอัลที่กำลังชุมนุมกันอยู่ในวิหาร..ห้ามไม่ให้ใครรอดไปได้ซักคนเดียว แล้วสุดท้ายปุโรหิตของพระบาอัลก็ถูกฆ่าตายทั้งหมดในวันนั้น เสร็จแล้ว เยฮูก็ทำลายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการนมัสการพระบาอัลจนหมดสิ้น และกระทำให้เป็นส้วมจนทุกวันนี้..ตามที่บันทึกไว้ในข้อที่ 27 (..เปลี่ยนจากวิหาร กลายเป็นส้วมสาธารณะ เจ็บแสบมาก 555) แล้วทั้งหมดนี้ คือ ผลงานของ”เยฮู” ที่พระเจ้าทรงพอพระทัยมาก เพราะในข้อที่ 30 พระเจ้าบอกกับเขาว่า “เพราะเจ้าได้ทำดีในการที่กระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา และได้กระทำต่อราชวงศ์อาหับตามทุกอย่างที่อยู่ในใจของเรา ลูกหลานของเจ้าชั่วอายุที่สี่จะได้นั่งบนบัลลังก์แห่งอิสราเอล" เพราะสิ่งที่เยฮูทำนี้ มันถูกใจพระเจ้ามาก เพราะงั้น..พงศ์พันธ์ของเยฮูจะได้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลไปอัก 4 ชั่วอายุคน

วันนี้หมดเวลาแล้วค่ะ..เดี๋ยวเราค่อนมาต่อกันคราวหน้านะคะ

ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

1 ความคิดเห็น:

  1. ตัวหนังสือ เหมาะกับผู้สูงวัยอย่างอิฉันมากเลยค่ะครูตุ๊ก
    ^_^

    ตอบลบ