วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

หนังสือ 2ซามูเอล ครั้งที่ 12 อาทิตย์ที่ 23:1:2011

ดาวิดกำลังหนีกระเซอะกระเซิง ตลอดทางที่หนีไป ดาวิดเจอทั้งคนที่รักและคนที่เกลียด คนที่รักก็ขอตามไปรับใช้ร่วมทุกข์ร่วมสุข คนที่เกลียดเขาอย่างชิเมอีก็ทั้งด่า..ทั้งขว้างหิน..ซัดดินใส่ ส่วนทางอับซาโลม พอมาถึงเยรูซาเล็มก็ประกาศการเข้ายึดบัลลังก์ของพ่อไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยการเข้าหาสนมทั้งสิบคนของดาวิด..ตามคำแนะนำของอาหิโธเฟล ซึ่งเป็นผลทำให้พระคำของพระเจ้าที่พิพากษาดาวิดไว้ทางนาธัน..เป็นจริงขึ้นอย่างครบถ้วน..ไม่ขาดไม่เกินซักคำเดียว

บทที่17 ตอนที่คำปรึกษาของอาหิโธเฟลแพ้คำปรึกษาของหุชัย

ดู 2ซมอ.17:1-2/3-4 หลังจากที่แนะนำให้อับซาโลมเข้าหาภรรยาของพ่อแล้ว มาถึงข้อนี้อาหิโธเฟล..เสนอตัว..ขอเป็นแมทัพ..นำกำลังทหาร 12000 คนไปตามฆ่าดาวิด ข้อที่2 อาหิโธเฟลชี้ให้อับซาโลมเห็นว่า แผนการของเขาจะเป็นปฏิการที่เหนือชั้นมาก เพราะตอนนี้ น่าจะเป็นช่วงที่ดาวิดอ่อนกำลังที่สุด เพราะฉะนั้น ควรฉวยโอกาสรีบตามดาวิดไป ถ้าเจอแล้วเขา”จะฆ่าดาวิดแค่คนเดียว” จะได้ไม่ต้องนองเลือดกันมากมายใหญ่โต เพราะถ้ากษัตริย์ดาวิดตาย..ทุกคนก็ต้องหันมาอยู่ฝ่ายอับซาโลม ฟังดูแล้ว อับซาโลมมีแต่ได้..กับได้ ข้อที่4 พระคำภีร์ถึงบอกว่า..แผนนี้ ถูกใจอับซาโลมมาก แล้วพวกที่ปรึกษาของเขาก็เห็นด้วย

ดู2ซมอ.17:5-6 ทั้งที่คำปรึกษาของอาหิโธเฟลก็ถูกใจอับซาโลมมาก เพราะมันรวบรัด..แล้วฟังดูน่าจะสูญเสียน้อยมาก ที่สำคัญ..เขาไม่ต้องเปลืองตัวออกไปสู้รบกับดาวิดให้ต้องลำบากกาย..ลำบากใจ แค่รอความสำเร็จอยู่เฉยๆที่เยรูซาเล็ม แล้วทำไม อับซาโลมยังอยากจะฟังความเห็นของหุชัยอีก คำตอบคือ..เพราะครั้งนี้ คำปรึกษาของอาหิโธเฟล..ไม่ใช่น้ำพระทัยพระเจ้า แล้วถ้าพระเจ้าไม่อนุญาต..ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้เลย ไม่ว่าอาหิโธเฟลจะน่าเชื่อถือหรือให้คำปรึกษาที่ฟังดูเหนือชั้นขนาดไหน สุดท้าย อับซาโลมก็จะไม่เลือกทำตามแผนนั้นแน่นอน ข้อนี้..บอกว่าอับซาโลมเรียกหา”หุชัย”ให้มาเฝ้า..เล่าให้ฟังว่าอาหิโธเฟลแนะนำเขาว่ายังไง เสร็จแล้วก็ถามหุชัยว่า..เขาควรจะเชื่อและทำตามที่อาหิโธเฟลบอกมั๊ย ลองคิดดู ว่าถ้าเราเป็นหุชัย ตอนนี้..จะรู้สึกยังไง กังวล..สับสนขนาดไหนเพราะใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนที่สนิทกับดาวิดมานาน แถมอับซาโลมก็ไม่ได้ให้เวลาคิดเลย..ต้องตอบคำถามเดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ใช่ด้วยพระคุณพระเจ้า..ครั้งนี้ หุชัยคงต้องลำบาก

ดู2ซมอ.17:7-8/9-10 หุชัยบอกว่า..คำแนะนำของอาหิโธเฟลครั้งนี้..ไม่ดี ไม่สมควรที่อับซาโลมจะทำตาม ข้อที่8 หุชัย เริ่มต้นพูดให้อับซาโลมลองคิดดูใหม่..ว่า “จริงๆแล้วก.ดาวิดเป็นคนยังไง..ดาวิดเป็นคนฉลาด เป็นนักรบที่แข็งแกร่งนะ..แล้วก็ชำนาญการรบมาก เพราะฉะนั้น อาหิโธเฟลคงจะประเมินดาวิดต่ำไปหน่อย ถึงคิดว่าตัวเองจะฆ่าดาวิดได้ง่ายขนาดนั้น ข้อที่ 9 หุชัยบอกต่อไปว่า..”ตอนนี้..ดาวิดคงซ่อนตัวเองอย่างดีแล้ว นึกเหรอ..ว่าจะเจอเขาอยู่ปะปนกับพวกทหาร..ไม่มีทาง ข้อที่10 หุชัยย้ำว่า..แม้แต่คนที่กล้าหาญที่สุดยังต้องกลัวจนตัวสั่น เพราะทั่วทั้งอิสราเอลรู้ดี..ว่าดาวิดคือวีรบุรุษตัวจริงแถมมีทหารฝีมือดีอยู่ข้างตัวหลายคน แล้วอีกอย่าง ดาวิดช่ำชองมากในถิ่นทุรกันดาร เพราะสมัยที่ต้องหนีซาอูล..ถิ่นทุรกันดารคือบ้านเขา ถ้าอาหิโธเฟลผลีผลามตามไป..ยังไงก็ไม่มีทางสู้ได้ (หุชัย..ว่างั้น)

ดู2ซมอ.17:11-12/13-14 หลังจากที่ชี้ให้เห็นว่าแผนของอาหิโธเฟล..ไม่เวริค หุชัยก็เสนอแผนของตัวเองทันที หุชัยพูดประมาณว่า..จะจัดการดาวิดไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อับซาโลมต้องรวบรวมคนอิสราเอลทั้งหมดตั้งแต่ดานถึงเบเออร์เชบาแปลว่า”ทั้งประเทศ” แล้วคนที่จะนำทัพใหญ่ขนาดนี้..ฝีมือก็ต้องเข้าขั้น เพราะฉะนั้น อับซาโลมออกโรงเองน่าจะเหมาะกว่า..แปลว่า อาหิโธเฟลยังอ่อนไป (ต้องบอกว่า”หุชัย”ฉลาดมาก..พูดไปก็ยกหางอับซาโลมไปด้วยเสร็จสรรพ) แล้วเราคิดว่า..คนขี้โอ่อย่างอับซาโลมจะเชื่อใคร..หุชัย หรือ อาหิโธเฟล

ข้อที่ 14 บอกว่า..อับซาโลมรวมทั้งที่ปรึกษาทั้งหมด เห็นตรงกันว่า คำปรึกษาของ”หุชัย” ดีกว่า “อาหิโธเฟล” จริงๆก็เพราะ”พระเจ้าสถาปนาให้เป็นอย่างงั้น” พระองค์สามารถประทานถ้อยคำที่เต็มไปด้วยสติปัญญา..ให้แก่หุชัยและพวกเราด้วย เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัย แล้วการเตรียมกองทัพขนาดใหญ่..ก็มีผลทำให้ดาวิดและผู้ติดตามมีเวลาพอที่จะตั้งตัวเตรียมรับมือกับอับซาโลม

ดู2ซมอ.17:15-16 พออับซาโลมเลือกที่จะทำตามคำแนะนำของหุชัย หุชัยก็รีบส่งข่าวไปถึงศาโดกกับอาบียาธาร์..ปุโรหิตที่ดาวิดให้มารออยู่ที่เยรูซาเล็ม เพราะแผนการของหุชัยทำให้ดาวิดมีเวลาตั้งตัวก็จริง..แต่มันก็ทำให้กองทัพของอับซาโลมใหญ่ขึ้นด้วย เพราะฉะนั้น เขาต้องรีบส่งคนไปเตือนดาวิด ศาโดกกับอาบียาธาร์ก็เลยใช้ลูกชาย คือ โยนาธานกับอาหิมาอัส..ให้ไปส่งข่าวดาวิด แต่บังเอิ๊ญ..มีคนของอับซาโลมเห็นสองคนนี้เข้า ก็เลยไปบอกอับซาโลม..

ดูต่อไป 2ซมอ.17:18-20 โยนาธานกับอาหิมาอัสรีบหนีไปที่บ้านของชายคนนึงที่”บาฮูริม” ภรรยาเจ้าของบ้านซ่อนสองคนนี้ไว้ในบ่อน้ำ ปิดปากบ่อด้วยผ้า..แล้วก็เอาปลายข้าวมาเกลี่ยทำเป็นตากข้าวไว้บนปากบ่อ..เนียนมาก พอคนของอับซาโลมมาถามหาอาหิมาอัสกับโยนาธาน ผู้หญิงคนนี้ก็บอกว่า..”เห็นทั้งสองคนข้ามลำธารไปแล้ว” คนของอับซาโลมเที่ยวหาอยู่นาน พอแน่ใจว่าหาไม่เจอก็เลยกลับเยรูซาเล็มไป จากนั้น โยนาธานกับอาหิมาอัสก็รีบไปส่งข่าวให้ดาวิดรู้..ว่าอับซาโลมกำลังจะทำอะไร แผนเป็นยังไง ดาวิดกับพวกก็เลยหนีข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปตั้งแต่คืนนั้นเลย..

ดู2ซมอ.17:23 เมื่ออาหิโธเฟลแน่ใจแล้วว่าอับซาโลมกับพวกผู้นำ..ไม่มีใครเลยที่จะเชื่อคำแนะนำของเขา ข้อนี้ บอกว่า..อาหิโธเฟลก็เลยขี่ลากลับบ้านไป สั่งเสียลูกหลานเสร็จสรรพ..ก็ผูกคอตาย ทำไมต้องขนาดนั้น..แค่คำปรึกษาไม่เป็นที่ยอมรับ..ถึงกับอยู่ต่อไปไม่ได้เลยหรอ อายุก็ขนาดนี้แล้วน่าจะผ่านร้อน..ผ่านหนาวมาไม่ใช่น้อย แล้วทำไมคิดสั้นจัง.. นักวิชาการบางท่านให้ความเห็นว่า..เมื่ออาหิโธเฟลแน่ใจแล้ว..ว่าอับซาโลมเลือกที่จะเชื่อหุชัย จุดนั้น เขารู้ทันทีด้วยสัญชาตญาณของผู้เผยวจนะว่า ”พระเจ้าทรงกำหนดให้อับซาโลมแพ้..” แล้วเขาจะเหลืออะไร เพราะเครดิตร์ที่เขาสร้างมาทั้งชีวิต..ก็จบไปแล้วตั้งแต่ที่เขาเลือกเข้าข้างอับซาโลม เขารู้..ไม่ใช่เขาไม่รู้ ว่าการเลือกอยู่ข้างอับซาโลมนั้น..มันผิด..แต่ยอมแลกเพราะแค้นดาวิด และในเมื่อเดิมพันทั้งชีวิตต้องสูญเปล่า ดาวิดก็ไม่ได้ถูกกำจัดไปอย่างที่เขาต้องการ อาหิโธเฟลก็เลยคิดว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ต่อ..เลยจบชีวิตตัวเอง ผูกคอตายหนีความล้มเหลว

2ซมอ.18:1-2/3 มาถึงตอนนี้ ดาวิดเลี่ยงที่จะสู้กับลูกตัวเองไม่ได้แล้ว ข้อนี้บอกว่า..ฝ่ายดาวิดมีการแบ่งกำลังเป็นสามส่วน ให้โยอาบ..อาบีชัย แล้วก็อิททัย..ชาวกัทคุมคนละส่วน ดาวิดบอกทหารว่าเขาจะออกไปรบด้วย..แต่ไม่มีใครเห็นด้วย พวกทหารให้เหตุผลว่า..ถ้าพวกเขาจะต้องหนีหรือตายไปซักครึ่ง..ก็ยังไม่มีความหมายอะไรกับอับซาโลม เพราะตราบใดที่ดาวิดยังอยู่..อับซาโลมก็ยังชนะไม่ขาด.. เพราะฉะนั้น ดาวิดควรจะไปอยู่คอยบัญชาการในเมืองจะดีกว่า เพราะชีวิตของดาวิดคนเดียวมีค่ามากกว่าพวกเขาเป็นหมื่น

ดู2ซมอ.18:4-5 “ท่านทั้งหลายเห็นชอบอย่างไร เราจะทำตาม” ดาวิดยอมประทับอยู่ที่ประตูเมือง..ปล่อยให้พวกทหารออกไปรบโดยการนำของแม่ทัพทั้งสามคน แบบนี้ดีที่สุดแล้ว..ดาวิดไม่ต้องไปสู้กับลูกตัวเอง ฝ่ายทหารก็ไม่ต้องอึดอัดใจ..ถ้าบังเอิญต้องไปเผชิญหน้ากับอาซาโลม จะทำอะไรก็คงไม่ถนัด..ต้องเกรงใจดาวิด เพราะยังไงอับซาโลมก็ลูกเขา แต่ !! ถึงไม่ได้ไปทุกคนก็ต้องไปรบด้วยความอึดอัดอยู่ดี เพราะข้อที่ 5 ดาวิดสั่งโยอาบ อาบีชัย และอิททัยว่า..” เบาๆมือกับอับซาโลมหน่อยนะ นึกซะว่าเห็นแก่เรา” ถ้าทุกคนเคร่งครัดในคำสั่งของดาวิด นี่ก็คือ ภาระกิจที่ยากและไม่มีวันสำเร็จ เพราะพวกเขาต้องเบามือกับอับซาโลม แต่อับซาโลมจะเบามือกับพวกเขามั๊ย..คงไม่มีทาง และตราบใดที่อับซาโลม..ยังอยู่ ยังไงก็จะชนะกันไม่ขาด.. อาหิโธเฟลถึงตั้งใจว่า”จะฆ่าดาวิดแค่คนเดียว” เพราะแค่นั้น..เพียงพอแล้วสำหรับชัยชนะ ท้ายข้อที่5 บอกต่อไปว่า..พวกพลก็ได้ยินคำสั่งของดาวิดเรื่องอับซาโลมด้วย แล้วเด็กๆคิดว่า พวกทหารจะรู้สึกยังไง (นี่พวกเขาจะรบไปเพื่ออะไร!!มีแต่แพ้กับเสมอ)

ดู2ซมอ.18:6-8 พวกพลจึงเคลื่อนออกไป..(แบบเซ็งๆ..555 อันนี้ น้าตุ๊กพูดเอง) สงครามครั้งนี้ รบกันในป่าเอฟราอิม ปรากฎว่าคนอิสราเอลภายใต้การนำของอับซาโลม “แพ้” ทหารของดาวิด พระคำภีร์บอกว่า..การรบครั้งนั้นดุเดือดเลือดพล่าน มีทหารตายไปสองหมื่นคน..สงครามแผ่กระจายไปเป็นวงกว้าง ข้อที่ 8 บอกว่า..”ในวันนั้นป่ากินคนซะมากกว่าดาบกิน” น่าจะหมายความว่า..ที่คนของดาวิดชนะก็ไม่ใช่เพราะมีกำลังมากกว่าหรือฝีมือดีอย่างเดียว แต่คงเป็นเพราะความชำนาญในป่าที่ต่างกันด้วย..ถึงทำให้ทหารของดาวิดได้เปรียบ เพราะทหารของดาวิดส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ติดตามเขามาตั้งแต่สมัยที่เขาต้องหนีซาอูลอยู่ในถิ่นทุรกันดาร การโกลาหลกำลังเกิดขึ้นในป่า..อิสราเอลที่กำลังพ่ายแพ้หนีกันกระจาย

ดู2ซมอ.18:9-10 “เผอิ๊ญ อับซาโลมไปเจอเข้ากับคนของดาวิด..แล้ว รีบหนีรึเปล่าไม่รู้ แต่!! ข้อนี้ บอกว่า..ล่อที่อับซาโลมขี่อยู่ดันวิ่งหนีเข้าไปใต้ต้นก่อหลวงใหญ่ ส่งผลให้ผมอันยาวสลวยสวยเก๋..ของอับซาโลมพันติดกับกิ่งก่อหลวงแน่น ส่วนล่อก็วิ่งเลยไป..ทิ้งให้อับซาโลมห้อยต่องแต่งอยู่กับกิ่งไม้ในสภาพที่ช่วยตัวเองไม่ได้ อ่านแล้ว..นึกถึงหนังแฟนตาซีสมัยนี้..ที่ตัวร้ายสุดท้ายจะกลายเป็นตัวตลก เพราะต้องพบจุดจบแบบขำๆ.. ข้อที่10 บอกว่า ขณะที่อับซาโลมกำลังห้อยต่องแต่งอยู่บนต้นไม้ ก็มีทหารของดาวิดคนนึงมาเห็นเข้า เจอภาพอย่างงั้น ทหารคนนี้ก็ทำอะไรไม่ถูก เลยวิ่งไปบอกโยอาบ..

ดู2ซมอ.18:11-12 “อะไรนะ เจ้าเห็นอับซาโลมห้อยติดอยู่บนต้นไม้เหรอ แล้วทำไมไม่ฆ่าเขาล่ะ..เราจะได้ให้รางวัลเจ้า แต่ชายคนนั้นตอบว่า..”ถึงมือข้าพเจ้าอุ้มเงินพันเหรียญอยู่ ข้าพเจ้าก็จะไม่ยื่นมือออกทำแก่ราชบุตร..” ถึงโยอาบจะเสนอรางวัลมากมายขนาดไหน เขาก็ไม่มีวันที่จะฆ่าอับซาโลม เพราะเขาได้ยินที่ก.ดาวิดสั่งไว้..ให้ปกป้องและไว้ชีวิตอับซาโลม ข้อที่13 ชายคนนี้พูดต่อไปว่า..ถ้าเขายอมทำตามที่โยอาบสั่ง ถึงเวลาที่ถูกดาวิดสอบสวน โยอาบก็จะโยนความผิดให้เขาคนเดียว..ไม่มีทางช่วยเขาให้พ้นผิดแน่ (พูดเหมือนรู้ทัน..ว่าโยอาบนิสัยยังไง) เพราะฉะนั้น เขาจะไม่มีวันขัดคำสั่งดาวิดเด็ดขาด

ดู2ซมอ.18:14-16 โยอาบรู้สึกรำคาญทหารคนนี้จริงๆ ฟังอยู่ตั้งนาน.ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา จะเชื่อฟังดาวิด..อะไรกันนักกันหนา ว่าแล้วโยอาบก็รีบไป..เอาไม้หลาวสามอันเสียบทะลุหัวใจของอับซาโลม ทหารที่มีอาวุธก็วิ่งตามมาฆ่าซ้ำ อับซาโลมเลยตายในสภาพที่ถูกแขวนติดอยู่บนต้นก่อหลวง

เรายังจำกันได้มั๊ยว่า..ว่าโยอาบคนเดียวกันนี้ เป็นคนวิ่งเต้นให้อับซาโลมได้กลับมาอยู่ที่เยรูซาเล็ม ลงทุนแต่งเรื่อง..จ้างหญิงชาวเทโคอาให้มาหาดาวิด พูดนั่น..พูดนี่ แล้วก็จบลงด้วยการพูดโน้มน้าวให้ดาวิดยอมรับอับซาโลมกลับมา เพื่ออะไร..ไม่ใช่เพราะหวังดีจริงๆเหรอ แล้วทำไมวันนี้ ถึงฆ่าอับซาโลมได้อย่างเลือดเย็น..เด็กๆสงสัยมั่งรึเปล่า

เปิดกลับไปดู 2ซมอ.17:25 ข้อนี้ พอจะเป็นเหตุผลได้รึเปล่า..โยอาบช่วยเหลือ..ทำเพื่ออับซาโลมมากมาย แต่พอยึดบัลลังก์พ่อได้แล้ว อับซาโลมก็เขี่ยเขาทิ้ง..ไปแต่งตั้ง”อามาสา”ลูกพี่ลูกน้องของโยอาบให้เป็นแม่ทัพแทนเขา..นี่มันหักหลังกันชัดๆ เพราะฉะนั้น จุดนี้มันยืนยันได้ในระดับนึงว่าที่โยอาบช่วยอับซาโลม..เพราะเขามีจุดประสงค์ ถ้าช่วยด้วยความจริงใจหรือบริสุทธิ์ใจ วันนี้เขาจะฆ่าอับซาโลมมั๊ย !!

ที่สำคัญ โยอาบคนเดียวกันนี้..ที่ดาวิดใช้ให้ฆ่าอุรีอาร์ ถึงจะไม่ได้ลงมือเองแต่โยอาบก็คือคนที่รับหมายประหารจากดาวิด..ให้ส่งอุรีอาร์ไปตาย แล้ววันนี้ โยอาบคนเดียวกันก็ขัดคำสั่งดาวิด..ฆ่าอับซาโลมด้วยมือของเขาเอง และทั้งที่ดาวิดก็มีอำนาจล้นมือ..แต่ปกป้องลูกตัวเองไม่ได้ เรื่องนี้ไม่บังเอิญ..พระเจ้าทรงตั้งใจเพื่อให้ดาวิดและเรา..สำนึกไว้ว่า ต่อให้มีอำนาจบารมีของโลกนี้มากมายจนล้น..มนุษย์ทุกคนก็อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่ดี..ไม่มีใครอยู่เหนือการควบคุมของพระเจ้า

ดู2ซมอ.18:28-29 หลังจากที่รบชนะพวกของอับซาโลมแล้ว โยอาบก็ใช้ให้ชาวคูชคนนึงให้ไปส่งข่าวดาวิด..แต่ยังไม่ให้บอกว่าอับซาโลมตายแล้ว แต่อาหิมาอัสก็ยืนยันว่าจะขอไปส่งข่าวด้วย.. แล้วเขาก็ไปถึงที่ประทับดาวิดก่อนคนคูช พอไปถึงก็กราบลงแล้วทูลดาวิดว่า”สาธุการแด่พระเจ้า พระองค์ทรงมอบพวกกบฎไว้ในมือของดาวิดแล้ว” แต่เหมือนดาวิดจะไม่สนใจฟังรายงานจากสนามรบ เพราะคำแรกที่เขาถามก็คือ”อับซาโลม ปลอดภัยรึเปล่า” แต่อาหิมาอัสก็ทำเฉไฉตอบไม่ตรงคำถาม พูดประมาณว่า” ไม่รู้เหมือนกันเพราะตอนที่โยอาบให้มาส่งข่าว..เขาเห็นผู้คนกำลังสับสนอลหม่าน เลยไม่รู้ว่าใครเป็นใคร..อะไร ยังไงมั่ง” คือ ตอบแบบเอาตัวรอด

ดู2ซมอ.18:31-32 พอ”อาหิมาอัส” ตอบได้ไม่ถูกใจ ดาวิดก็ไล่ให้ไปยืนหลบอยู่..เพราะชาวคูชที่โยอาบให้มาส่งข่าว..มาถึงพอดี พอมาถึงเขาก็กราบลง แล้วทูลดาวิดว่า”มีข่าวดีมาบอก เพราะวันนี้พระเจ้าช่วยกู้ฝ่าพระบาทให้พ้นจากมือของพวกกบฎแล้ว” ดูเหมือนทุกคนจะเห็นชัยชนะครั้งนี้เป็นข่าวดีกันหมด..ยกเว้น ดาวิด ที่ยังคงไม่สนใจเรื่องแพ้ชนะในสนามรบ ข้อที่32 ดาวิดยังถามเหมือนเดิม ”อับซาโลม ยังสบายดีมั๊ย..มีใครทำอะไรเขารึเปล่า” ชาวคูชตอบดาวิดว่า “ขอให้ศัตรูและผู้ที่คิดร้ายต่อดาวิด..เป็นเหมือนอับซาโลมเถิด” แค่นั้นล่ะ ดาวิด ทรุดเลย..รู้ทันทีว่าอับซาโลมตายแล้ว จากนั้น ก็ขึ้นไปเก็บตัวอยู่ที่ห้องชั้นบนของประตูเมือง เอาแต่ร้องคร่ำครวญว่า”อับซาโลม บุตรของเรา อับซาโลมบุตรของเราเอ๋ย เราอยากจะตายแทนเจ้าจริงๆ”คนเป็นพ่อเป็นแม่” ก็อย่างเงี้ย ลูกเลวขนาดจะฆ่าตัวเองอยู่แล้ว..ก็ยังรักขนาดอยากจะตายแทนมัน (แต่!พระเจ้าไม่ยอมให้แทน)

หมดเวลาแล้วค่ะ พบกันใหม่สัปดาห์หน้านะคะ ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น