วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เฉลยบททดสอบ 1ซามูเอล ชุดที่ 1 อาทิตย์ที่15:8:2010

1.ตอบ ค. มีเนื้อหาที่ยกพระเจ้าเป็นศูนย์กลาง ไม่ได้จดจ่อที่ความรู้สึกหรือสิ่งที่ตัวเองได้รับ ไม่ว่าจะเป็นพระพรหรือความทุกข์ยากลำบาก แต่ฮันนาห์ยกพระเจ้าเป็นใหญ่ในคำอธิฐานและการสรรเสริญ สิ่งนี้มีส่วนสำแดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่เติบโต เพราะ ผู้ที่เติบโตฝ่ายวิญญาณจะให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเองหรือสิ่งที่มองเห็นฝ่ายโลกรองจากพระเจ้า แต่จะยกพระเจ้า ราชกิจ และความยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นสิ่งสำคัญ
2.ตอบ ข. พ่อแม่ต้องจ่ายราคาในการที่ไม่อบรมลูก เพราะพระคำภีร์สอนเราให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี พ่อแม่มีหน้าที่ต้อง..เลี้ยง..ดู..อบ..รม..สั่ง..สอน..ขู่..ปลอบ..ให้กำลังใจ..ดัดนิสัย ถ้าทั้งหมดนี้ยังกำราบลูกไม่อยู่ก็ต้องมีไม้เรียวด้วย..ถ้าจำเป็น พระคำภีร์บอกไว้ชัดเจนว่า ถ้าเราเลี้ยงดูอบรมลูกเป็นอย่างดี เขาจะนำความชื่นใจมาให้ พ่อแม่จะได้กินผลเมื่อเขาเติบโตและงดงาม แต่ถ้าเราละเลยไม่ใส่ใจลูก ในเวลาที่เขาโตขึ้นพ่อแม่ก็ต้องจ่ายราคาอย่างสาสมเช่นกัน ความจริงเรื่องนี้..มีรายละเอียดมากกว่านี้ เพราะมันมีเนื้อหาที่คาบเกี่ยวระหว่าง..การวางใจในน้ำพระทัยพระเจ้า กับการไม่ใส่ใจที่จะทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งน้าตุ๊กเคยสอนไปแล้ว
3.ตอบ ก. ยอมให้บุตรเลือกเฟ้นของถวายส่วนที่ดีที่สุด เพราะตามกฎบัญญัติของพระเจ้าปุโรหิตจะเอาสามง่ามแทงลงไปในหม้อเนื้อที่กำลังต้มอยู่ ติดชิ้นไหนขึ้นมา..ชิ้นนั้นก็คือส่วนของปุโรหิต แต่บุตรของเอลีไม่ทำอย่างนั้น เมื่อมีคนเอาเนื้อมาถวายคนใช้ของโฮฟนีกับฟีเนหัสจะเข้ามาขอเนื้อไปก่อน โดยไม่ยอมให้เผาไขมันให้ถูกต้องตามพระบัญญัติก่อนด้วยซ้ำ และถึงเอลีจะไม่ได้ลงมือทำเองแต่การเพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่ผิดบาปของลูกตัวเอง ก็เท่ากับ..เขาก็มีส่วนร่วมในความบาปนั้นด้วย จริงๆแล้วผิดหลายกระทงอยู่ ทั้งไม่เชื่อฟังพระเจ้า ไม่อบรมสั่งสอนลูก และแน่นอน..ต้องร่วมวงกินเนื้ออร่อยที่เลือกเฟ้นจากของถวายกับเขาด้วย
4.ตอบ ข. มองหีบพันธสัญญาเป็นรูปเคารพ เพราะในบริบทนี้คนอิสราเอลลงความเห็นกันว่า..ที่พวกเขาแพ้ฟิลิสเตียก็เพราะไม่ได้เอาหีบพันธสัญญาออกมาที่สนามรบ เด็กๆฟังดูแล้วมันเกี่ยวมั๊ยล่ะ..พระเจ้าทรงสถิตอยู่ที่หีบเท่านั้นหรือ หรือฤทธิ์อำนาจการช่วยกู้ของพระองค์ถูกจำกัดไว้กับหีบนั้น ถึงช่วยอิสราเอลไม่ได้ถ้าไม่ยกหีบออกมาที่สนามรบ นี่มันยกหีบพันธสัญญเป็นรูปเคารพชัดๆ แล้วที่สำคัญความคิดอย่างนี้ไม่ถวายเกียรติพระเจ้า..อย่างแรง เพราะเผลอมองพระเจ้าเล็กกว่าที่พระองค์ทรงเป็น
5.ตอบ ก.มองพระเจ้าเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น มองพระเจ้าเป็นแค่ผู้ช่วยแล้วเผลอเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง หรืออาจจะเห็นพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์จริงแล้วเลยหวังว่าพระองค์ต้องให้สิ่งที่เราอยากได้ (เสมอ) เพราะในทางพระเจ้า..พระองค์คือสิ่งที่พวกเรามองไม่เห็น..แต่มีอยู่จริงและที่สำคัญ..ยิ่งใหญ่จริง พระเจ้าไม่เคยเอารางวัลผูกโบล์มาวางล่อไว้..เพื่อที่เราจะได้เลือกพระองค์ มนุษย์ต้องติดสนิทกับพระองค์ด้วยความรัก และจิตใจที่แสวงหา แล้วจึงได้พบพระเจ้า พร้อมขุมทรัพย์ที่ล้ำค่าที่สุดในมหาจักรวาล แต่สิ่งนี้..มันสวนทางกับกมลสันดานของมนุษย์ เพราะฉะนั้น ถึงเชื่อพระเจ้าแล้ว แต่ถ้าไม่ติดสนิท ไม่แสวงหา หลายคนก็มักจะพลาด..ไม่ก็เผลอย้ายพระเจ้าไปอยู่มุมนึง แล้วเมื่อไหร่ที่ต้องการความช่วยเหลือก็ค่อยยกพระองค์ออกมาปัดฝุ่น..แล้วก็เริ่มอธิษฐานขอนั่น..ขอนี่
6.ตอบ ข.เพราะคนอิสราเอลมองหีบพระสัญญาเป็นรูปเคารพ คนอิสราเอลในบทนี้..คิดว่าแพ้พวกฟิลิสเตียเพราะลืมหีบ..นี่พวกเขาเห็นพระเจ้าเป็นอะไร ถูกจำกัดด้วยเวลาและสถานที่หรือ..นั่นมันพวกพระเทียมเท็จหรือสัมพเวสี แล้วสมควรมั๊ย..ที่พระองค์จะโกรธ เด็กๆลองคิดดู..สมมติว่าเราจบปริญญาโท เคยทำงานระดับบริหาร แล้ววันนึงถูกย้ายไปคุมแผนกแม่บ้านหรืองานทำความสะอาด..เราจะรู้สึกยังไง แล้วนี่พระเจ้านะ..พระองค์ใหญ่ที่สุดในกัลปจักรวาล แล้วคนอิสราเอลมาปฏิบัติกับพระองค์เหมือนเป็นอะไรซักอย่าง..ที่ถูกสถาปนาไว้ตรงไหน..ก็ต้องอยู่ตรงนั้น มองว่าฤทธิ์อำนาจของพระองค์ขึ้นอยู่กับหีบพันธสัญญา สมควรมั๊ย..ที่พระเจ้าจะเอาสิ่งที่เป็นรูปเคารพ..ออกไปจากชีวิต หรือสมควรมั๊ย..ที่พระเจ้าจะเอาบางอย่างออกไปจากชีวิต(ของพวกเรา) จะได้เห็นกันใสๆว่า..ใครใหญ่จริง แล้วความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง..เป็นยังไง
7.ตอบ ข.กำจัดไปให้พ้น เราจะเห็นว่า..พวกฟิลิสเตียรู้จักพระเจ้าของอิสราเอลดีมาก..ดีมากจริงๆ รู้ประวัติศาสตร์ของอิสราเอลอีกต่างหาก แล้วยังสำแดงความรอบคอบ..ว่าพวกเขาจะไม่ทำพลาดเหมือนฟาโรห์..ที่ไม่ยอมปล่อยพวกฮีบรูไป ทั้งที่ตัวเองก็โดนพระเจ้าเล่นงานจนลากเลือด พวกฟิลิสเตียรู้ทุกอย่าง เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าทุกประการ..แต่ ถ้าไม่ใช่คนที่พระเจ้าเลือกแล้ว..ยังไงก็ไม่ใช่อยู่ดี ต่อให้คุณรู้จักหรือได้เห็นพระคุณมากมาย ขนาดคนตายฟื้นมาต่อหน้า..ถ้าพระเจ้าไม่ได้เลือก คุณก็ไม่มีวันที่จะกลับใจใหม่ เหมือนพวกฟิลิสเตียในตอนนี้..เหมือนฉลาด มองเห็นและเข้าใจทุกอย่าง แต่ก็เลือกที่จะกำจัดพระเจ้าออกไปให้พ้นทาง
8.ตอบ ค. เพื่อให้อิสราเอลหันมาพึ่งพระองค์อย่างสุดใจ เพราะเมื่อโลกนี้ตกลงในความบาป เมื่อมนุษย์ถูกตัดขาดจากพระสิริของพระเจ้า สิ่งที่เคยเห็นก็ไม่เห็น สิ่งที่ไม่ควรเห็นกลับเห็นชัดเจน เมื่อตกอยู่ในความบาปแล้ว มนุษย์ก็เป็นทาสของเนื้อหนัง..เนื้อหนังบอกว่าไร ส่วนใหญ่ก็เชื่ออย่างงั้น เนื้อหนังบอกว่า..ถ้ามีเงินแล้วสบาย เราก็มักจะเผลอเชื่อไปตามนั้น เนื้อหนังบอกว่า..ขับเฟอรารี่ แล้วเท่ เราก็รู้สึกอย่างงั้นจริงๆ หรือเนื้อหนังบอกว่า..ถ้าเรารู้จักคนใหญ่คนโตนะ..จะไม่มีใครรังแกเราได้ เราก็จะเชื่ออย่างงั้น เพราะสารพัดที่พูดมา.. มันตอบสนองความรู้สึกดีให้กับฝ่ายเนื้อหนังได้ เพราะเนื้อหนัง คือ เรื่องของรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ดังนั้น มันจะจูนได้ง่ายกับสิ่งที่เราสามารถจับต้องหรือมองเห็น แต่ในความบริสุทธิ์ของพระเจ้า..ไม่เหมือนกัน เพราะคอนเซ็ปท์ คือ ความเชื่อ..ความเชื่อคืออะไร ในฮีบรู 11:1 บอกว่า...ความเชื่อ คือ “ความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า..สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง” เพราะถ้าเห็นอยู่ใสๆแล้ว คงไม่ต้องใช้ความหวังและความเชื่อ ซึ่งมันคนละขั้วกันเลยกับเรื่องของเนื้อหนัง เพราะฉะนั้น หลายครั้งพระเจ้าก็ต้องหักดิบโดยการเอาบางอย่าง..ที่เราคิดว่าสำคัญจนมากเกิน..ออกไป อะไรก็ตามที่เราคิดว่า..ชีวิตนี้ชั้นขาดไม่ได้..ถ้าไม่มีอันนี้ชั้นตายแน่ พระเจ้าจะเอาออกไป เพราะพระองค์เข้าใจ..ว่าเรายึดติดกับรูป รส กลิ่น เสียง เพราะเราเป็นทาสของเนื้อหนัง ถ้าจะรอให้ปล่อยวางเอง..บางครั้งก็ทำได้ แต่หลายครั้งเรามักจะแพ้ พระเจ้าเลยต้องช่วยเอาออกไป..เพื่อให้เราเหลือตัวเปล่าๆ เพราะจุดนั้น มนุษย์จำเป็นแล้ว..ที่จะต้องพึ่งพระเจ้าอย่างสุดใจ
9.ตอบ ก.ตัดสินใจแต่ละเรื่องให้ดีที่สุด ทำตามที่พระเจ้าสอนในทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แค่นี้..ดีพอแล้ว ไม่ต้องตะเกียกตะกายไปประกาศ ไปให้คำปรึกษา หรือไปดั้นด้นแสวงหาอัศจรรย์อะไรมากมาย เพราะถ้าเป็นน้ำพระทัยที่พระเจ้าจะทรงสำแดงแก่เรา ยังไง..เราก็ต้องเห็น พระเจ้าทรงทำทุกอย่างได้ในทุกที่ ทุกเวลา และทุกสถานการณ์ เราไม่ต้องออกไปปลีกวิเวกที่ไหน อยู่กะบ้าน ทำงานตามหน้าที่ของเราไปตามปกติ แต่ขอให้ใจเราจดจ่ออยู่กับพระเจ้า..(อยู่กับพระเจ้าจริงๆนะ ให้พระองค์เป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น) พระวิญญาณบริสุทธิ์จะสามารถเต็มขนาดในชีวิตเราได้ ในขณะที่เรายังเป็นคนเดิม..ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ
10.ตอบ ข.ไม่ได้ เพราะในสายเลือดของมนุษย์ก็บาปเต็มๆ ความรอดต้องไขว่คว้าเอาเอง..ของใครของมัน ถ้าพ่อแม่เชื่อพระเยซู แต่ลูกไม่ยอมเชื่อ..ก็ตัวใครตัวมัน หรือ แม้แต่ในเรื่องของความชอบธรรมทางนิสัยใจคอ ก็สืบทอดทางเชื้อสายไม่ได้อยู่ดี เอาง่ายๆ..ซามูเอลเป็นคนชอบธรรม แต่ลูกของเขา..ไม่ ซาอูลมีนิสัยไม่ชอบธรรม ส่วนโยนาธานเหมือนพ่อมะ..ไม่เลย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นความชอบธรรมฝ่ายวิญญาณหรือความชอบธรรมทางเนื้อหนังความประพฤติ ก็ไม่ได้สืบทอดกันทางเชื้อสายทั้งสิ้น
11.ตอบ ค.เพราะแท้จริงแล้วคนอิสราเอลปฏิเสธพระเจ้า พวกเขาอาจจะอ้างว่า..ซามูเอลอายุมากแล้วเลยไม่แน่ใจว่าจะทำหน้าที่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์รึเปล่า แล้วลูกของซามูเอลก็ไม่ชอบธรรมเหมือนพ่อ..เลยอยากจะขอกษัตริย์มาปกครองพวกเขา ต้องบอกว่า..เป็นข้ออ้างที่ไม่สร้างสรรค์เลย เพราะจริงๆแล้วความอาวุโสมีประโยชน์ต่อการบริหารงานทุกอย่าง เด็กๆลองนึกภาพดูว่า..คณะผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วเต็มไปด้วยคนประเภทไหน..คนหนุ่มสาวที่เพิ่งเรียนจบ เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือพวกมือใหม่ไร้ประสบการณ์หรือ ไม่ใช่เลย..ผู้บริหารระดับสูงของทุกองค์กร ส่วนใหญ่แล้วมีแต่ผู้อาวุโสทั้งนั้น เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคนอิสราเอลจะอ้างอะไร พระเจ้าก็เห็นความจริงในหัวใจพวกเขาอยู่ดี...ว่าแท้จริงแล้วพวกคุณปฏิเสธพระเจ้า แต่ไม่กล้าที่จะยอมรับความจริง
12.ตอบ ค.พระองค์เตือนคนอิสราเอลให้รู้ว่า..ถ้ามีกษัตริย์แล้วชีวิตของพวกเขาจะเป็นไง อันนี้ต่อเนื่องกับข้อ 13 จริงๆแล้วทั้งก..ข..และค เป็นพระลักษณะของพระเจ้าทั้งหมด แต่ตอบ ค.เพราะบริบทนี้..สำแดงให้เห็นถึงความรักมั่นคงและพระเมตตาคุณที่ไม่สิ้นสุดของพระองค์ เพราะอะไร ทั้งที่พระองค์รู้ว่า..คนเหล่านี้มันเอาตัวไม่รอด พระเจ้าต้องโอบอุ้มค้ำชูพวกเขามาตลอด ครั้งแล้วครั้งเล่า..ที่พวกเขาอยู่ดีมีสุขแล้วก็ลืมพระองค์ มาตอนนี้ก็ยังกบฎไม่เลิก อยู่ดีๆก็เกิดอยากจะมีชีวิตของตัวเอง..ไม่เอาพระเจ้าซะงั้น แล้วพระเจ้าทำไง..เตือน ด้วยความรักและหวังดีแบบไม่มีอีโก้เหมือนมนุษย์ พระองค์เตือนพวกเขาว่าคิดดีๆนะ เพราะถ้ามีกษัตริย์แล้วจะถูกเอาเปรียบ1..2..3..4..5….แต่พวกเขาไม่ฟัง ถ้าน้าตุ๊กมีลูกอย่างงี้นะ..ขอยอมรับตรงๆว่าคงจบไปนานแล้ว อดทนได้ไม่ถึง 1% ของพระเจ้าหรอก เพราะฉะนั้น ความรักและพระเมตตาคุณของพระเจ้าจึงสูงส่งเหนือความรักอื่นใดในโลกนี้และหาที่สุดไม่ได้จริงๆ
14.เพราะก่อนที่อิสราเอลจะมีกษัตริย์ ประชาชนไม่ต้องเสียภาษี มีแต่สิบลด ผลแรกถวายแด่พระเจ้า แล้วชายฉกรรจ์ก็ไม่ต้องเข้าประจำการด้วย กองทัพของอิสราเอลจะเป็นแบบร่วมด้วยช่วยกัน เพราะฉะนั้นที่ถูกคือ ตอบ.ก.คือยังไงทุกคนก็ยังต้องเชื่อฟังพระเจ้า คุณอยากมีกษัตริย์ก็มีไป แต่พระเจ้ายังคงครองอยู่บนบัลลังก์สูงสุดสำหรับมนุษย์ทุกคน..เสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง ทุกคนยังต้องเชื่อฟังพระเจ้าเหมือนเดิม ส่วนกษัตริย์ก็แค่มาทำให้ชีวิตคุณยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น (แล้วขอกันมาทำไมเนี่ย..)
15.ตอบ.อิสราเอลยังยืนยันว่าต้องการกษัตริย์ เคยมะ..เวลาอยากได้อะไร..ก็จะเอาให้ได้ พ่อแม่เตือนแค่ไหน..ก็ไม่ฟัง “อย่าเพิ่งมีแฟนนะลูก ตอนนี้หนูยังเด็ก..อะไรๆก็ยังไม่แน่นอน เดี๋ยวถ้าเขาไปมีคนอื่นแล้วหนูจะเสียใจนะ หนูจะทำใจไม่ได้นะ หนูจะรับไม่ไหวนะ หนูจะเจ็บ..หนูจะร้องไห้ เชื่อแม่นะ..อย่าเพิ่งมีแฟนเลย แล้วมีกันมั๊ย..มี พ่อแม่เตือนมั๊ย..เตือน ถามว่าเชื่อมั๊ย..เชื่อ แต่อยากมี เข้าใจรึยัง..ว่าคนอิสราเอลอารมณ์ไหน ก็อารมณ์เดียวกันกะพวกเรานั่นแหละ แล้วเพราะอะไรถึงเป็นอย่างงั้น..คำตอบข้อ16 คือ..
16. ข.เพราะมนุษย์มันมีเชื้อบาปก็เลยมักจะกบฎ ทั้งที่รู้อยู่..ว่าบางอย่างไม่ควรทำ บางอย่างไม่ควรคิด บางอย่างไม่ควรซื้อ..(โดนล่ะสิ) ทั้งที่รู้ว่าบางอย่างไม่ควรทำแต่ก็ทำ..เพราะมันอยากลอง ถามว่ารู้มั๊ย..ว่าลองแล้วอาจเดือดร้อน..รู้ แต่ยอมเสี่ยง แล้วรู้มั๊ย..ว่าบางอย่างไม่ควรซื้อ..รู้ แต่ก็ซื้อ..เพราะอยากได้ เนี่ย..คือเชื้อบาปและความกบฎที่อยู่ในมนุษย์ อธิบายกันง่ายๆแค่นี้แหละ
17.ตอบ.ค เพราะไม่ยอมรับคนที่พระเจ้าเลือก จริงอยู่ที่คนกลุ่มนี้แสดงว่า..พวกเขาไม่ยอมรับในตัวซาอูล แต่เหตุผลแท้จริงที่พระคำภีร์เรียกคนกลุ่มนี้ว่า”อันธพาล”ก็เพราะพระเจ้าคือผู้ที่เลือกซาอูล แล้วถ้าคุณไม่ยอมรับเขาก็เท่ากับคุณปฏิเสธน้ำพระทัยพระเจ้า เพราะลำพังถ้ามนุษย์ดูถูกกันเอง..ก็คงไม่เท่าไหร่ แต่การกระทำของคนกลุ่มนี้ มันเข้าข่ายไม่ยอมรับผู้ที่พระเจ้าทรงเจิม..ดังนั้น ความหมายที่แท้จริงของคำว่าอันธพาลจึงหมายถึง..ไม่ยอมรับคนที่พระเจ้าเลือก
18. ตอบ ก.โกรธโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะข้อนี้..พระคำภีร์เขียนไว้ชัดเจนว่า..เมื่อซาอูลได้ยินถ้อยคำที่นาหาช กษัตริย์ของคนอัมโมนขู่คนอิสราเอลแล้ว...”พระวิญญาณของพระเจ้าก็สถิตกับซาอูลอย่างมากและความโกรธของท่านเกิดขึ้นอย่างรุนแรง” อย่างงี้แหละ..ที่เขาเรียกว่าโกรธโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ความโกรธประเภทนี้เกิดขึ้นกับคริสเตียนได้เหมือนกัน เช่น เมื่อเห็นความไม่ชอบธรรมในทางพระเจ้า เห็นพี่น้องทำผิดต่อพระเจ้า เห็นพี่น้องทะเลาะกัน หรือมีการแสวงหาประโยชน์โดยอ้างความชอบธรรม จริงๆแล้วยังมีอีกหลายกรณีที่บอกได้ไม่หมด ขอให้เด็กๆค่อยๆเรียนรู้เรื่องนี้..ด้วยความระมัดระวังในท่าที”ของตัวเอง” ไม่ใช่ไปคอยระวังหรือจับผิดท่าทีของคนอื่น
19.ข้อ ก.มีบางครั้งที่คริสเตียนสมควรโกรธ แต่อย่าเอามาอ้างเลอะเทอะ หรือเอามาเข้าข้างตัวเอง แล้วโกรธคนอื่นตะพึดตะพือไป ..ไม่ใช่นะ ที่บางครั้งสมควรโกรธก็เพราะพระคำภีร์บอกว่า..เราต้องไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด ผิดยังไง..ผิดจากการดำเนินในทางพระเจ้า..ไม่ใช่ผิดใจกับเราหรือไม่ถูกใจเรา..ก็ไปโกรธเขา ตรงจุดนี้ ทุกคนต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง..ว่าที่โกรธเขาน่ะ เพราะเขาทำผิดต่อพระเจ้าหรือเขาแค่ทำอะไรไม่ถูกใจคุณ เด็กๆต้องฝึกที่จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่วันนี้ จะได้ไม่เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่คิดผิดหรือทำผิดได้อย่างบริสุทธิ์ใจ เพราะโกหกตัวเองจนเป็นหนึ่งเดียวกับมัน นานวันก็มีแต่จะแยกไม่ออก..ว่าอันไหนใช่ อันไหนไม่ใช่ และการซื่อสัตย์กับตัวเองนี้..คือเรื่องที่ยากที่สุด เพราะมันเกิดขึ้นเงียบๆในหัวใจของเรา เป็นการทำความดีที่คนอื่นมองไม่เห็น มันจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับมนุษย์ เพราะมันไม่ได้เครดิต ไม่ได้รับคำสรรเสริญ ไม่ได้รับเสียงปรบมือ ไม่มีใครยกย่องเทิดทูน แต่เด็กๆต้องฝึกที่จะทำให้ได้ เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้น..ในการที่เราจะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อไป
20. ตอบ. ค.พระเจ้า เพราะจริงๆแล้วพระเจ้าใช้ใครก็ได้ ไม่ต้องโมเสสกับอาโรนหรอก แล้วการที่โมเสสขอถอนตัวตั้งหลายครั้ง..แต่พระเจ้าไม่ยอม ก็เพราะ..เมื่อพระองค์เลือกแล้ว จะทรงทำให้สำเร็จเสมอเพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ ไม่ใช่เพราะโมเสสเป็นคนเดียวที่ใช้ได้ หรือต้องโมเสสเท่านั้น..งานถึงจะสำเร็จ..ไม่ใช่ แต่เพราะพระเจ้าไม่เคยเลือกใครหรือทำสิ่งใดแล้วไม่สำเร็จ
21.ตอบ ก.พระเจ้า จริงอยู่ที่พระเจ้าบอกเราให้เราเชื่อฟังผู้นำ แต่ไม่ว่าจะมีผู้นำหรือไม่ พระเจ้าจะยังครองอยู่บนบัลลังก์สูงสุด และสิทธิสำนาจสูงสุดก็ยังคงอยู่ที่พระองค์..เสมอ
22.ตอบ ก. ”ท่านที่พระองค์ทรงใช้มา” ในบริบทนี้ หมายถึง พระเยซูคริสต์
23.ตอบ ค.เพื่อเรียนรู้และดำเนินอยู่ในทางพระเจ้า จริงๆแล้ว..การเรียนพระคำภีร์ จะทำให้เด็กๆเป็นคนที่มีคุณภาพมากขึ้น เมื่อมีคุณภาพแล้ว..บางครั้งศักยภาพก็จะตามา ถามว่าเหมาะมั๊ย..ที่จะเป็นผู้นำในสังคม..เหมาะมาก แต่..พระเจ้าไม่ได้มีน้ำพระทัยให้คริสเตียนเป็นผู้นำทุกคน พระเจ้าทรงโปรดให้คนของพระองค์แทรกซึมอยู่ในทุกสิ่งแวดล้อม เพื่ออะไร..เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี มีคริสเตียนที่ไหนจะต้องมีแสงสว่างที่นั่น..ไม่ใช่ไปถึงไหน..ก็อายเขาไปถึงนั่น เพราะฉะนั้น แท้จริงแล้วพระเจ้าจึงให้เราเรียนรู้พระวจนะของพระองค์ก็เพื่อให้เราดำเนินชีวิตอยู่ในทางของพระเจ้า..ถวายเกียรติแด่พระองค์
24.ตอบ ข.เพราะซาอูลไม่เชื่อฟังพระเจ้า เครื่องเผาบูชาเป็นของศักดิ์สิทธิ์มั๊ย..สำหรับสมัยนั้น ต้องบอกว่าศักดิ์สิทธิ์มาก อุปกรณ์ทุกอย่างหรือแม้แต่คนที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการนมัสการพระเจ้า..ศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่าง แต่พระเจ้าก็ยังให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้น้อยกว่าจิตใจ ซาอูลละเมิดกฎบัญญัติ..โดยทำการเผาเครื่องบูชาเอง ทั้งที่เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของปุโรหิต ซาอูลอาจจะคิดว่า..เผาแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น ฟ้าก็ไม่ถล่ม แผ่นดินก็ไม่ได้สะเทือน..คงไม่เป็นไร ไม่ใช่..เพราะพระเจ้ามองเห็นหัวใจที่กบฎของเขา คือถ้าคุณกล้าทำเรื่องนี้..ต่อไปคุณก็ต้องกล้ากบฎเรื่องที่ใหญ่กว่านี้แน่นอน แล้วเราก็เห็นแล้ว..ว่าซาอูลก็ทำจริงๆ ทั้งฆ่าปุโรหิต พยายามฆ่าดาวิด..ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิม แล้วสุดท้ายก็ยังไปหาคนทรง
25.ตอบ ข.ไม่ได้ ในบริบทนี้น้าตุ๊กขอพูดถึงความบาปที่ระบุไว้ชัดเจนในกฎบัญญัติของพระเจ้าก่อน ..ที่ห้ามทำเด็ดขาดไม่ว่า..สถานการณ์จะสุดวิสัยขนาดไหนก็ห้ามทำ เช่น ไปไหว้พระอื่น ฆ่าคนตาย ลักเล็กขโมยน้อยไปจนถึงปล้นเขากิน ทอดทิ้งพ่อแม่ ล่วงประเวณี เป็นพยานเท็จใส่ร้ายคนอื่น ประเภทอย่างงี้ที่ห้ามทำโดยเด็ดขาด ส่วนความผิดเล็กๆน้อยๆประเภท เขาด่ามา..เราด่ากลับ แอบอิจฉาที่เพื่อนสวยกว่าเรา หรือแอบดีใจที่เห็นคนอื่นลำบาก ขับรถผ่าไฟแดง หรือไม่ข้ามถนนตรงทางม้าลายอะไรประเภทนี้..ตอนนี้น้าตุ๊กจะยังไม่พูดถึง เพราะต้องคุยกันยาว..
26.ตอบ ค.คนต่างชาติที่ไม่ใช่อิสราเอล ทุกชนชาติเลยไม่ได้หมายถึงเฉพาะพวกฟิลิสเตีย หรือชนชาติใดชนชาติหนึ่ง
27.ก.มีความเชื่อในพระเจ้า เพราะการกระทำและคำพูดของโยนาธานชัดเจนมาก ข้อนี้เขาพูดว่า”..บางทีพระเจ้าจะทรงประกอบกิจเพื่อเรา เพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่ขัดขวางพระเจ้าได้ในการที่พระองค์จะทรงช่วยกู้..” ทุกคำพูดของโยนาธานเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในพระเจ้า ไม่ใช่ความมั่นใจในตัวเอง
28.ตอบ ก.เพราะนอกจากจะมีความเชื่อแล้ว โยนาธานยังแสวงหาพระเจ้าอีกด้วย นี่คือความชอบธรรมที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เด็กๆจำไว้เลย..ว่ามีความเชื่ออย่างเดียวยังไม่พอ เราต้องแสวงหาพระเจ้า..จนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะน้าตุ๊กเห็นมาเยอะมาก พอรับเชื่อเสร็จแล้วก็จบเลย..ชั้นรอดแล้ว ใช่คุณรอดจริงๆ แต่นั่นไม่ทำให้พระเจ้ายิ้ม..หรือชอบพระทัย แล้วความเชื่อของคนเหล่านี้ก็จะตื้นเขินมาก..พร้อมที่จะสับสน หลงเจิ่นและหลุดจากทางพระเจ้าได้ตลอดเวลา คริสเตียนเพียรแสวงหาพระเจ้าด้วยการอธิฐานและเรียนรู้น้ำพระทัยของพระองค์จากพระคำภีร์ แล้วเด็กๆจะเติบโตอย่างสง่างาม
29.ตอบ ข.พระเจ้าประสงค์จะให้เกียรติโยนาธาน..พระองค์จึงตอบคำอธิฐานเป็นรางวัลให้กับความเชื่อของเขา ส่วนมันจะไปเข้าทางใครก็อีกเรื่องนึง ซาอูลอาจจะเข้าใจผิดคิดว่า..ที่อิสราเอลชนะก็เพราะตัวเองทำถูกที่ไม่มัวชักช้าแสวงหาน้ำพระทัย..แต่นั่นก็เรื่องของซาอูล แล้วพระเจ้าก็ไม่แคร์ด้วยว่า..ใครจะคิดยังไง เพราะพระองค์ใหญ่สุด อย่างกรณีนี้เราก็เห็นชัดเจน....ว่าที่อิสราเอลได้ชัยชนะก็เพราะพระเจ้าทรงเห็นแก่โยนาธาน แต่สถานการณ์ก็พาให้ซาอูลคิดไปอีกอย่าง เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้ถ้าเห็นคนที่ทำผิดแล้วเขายังคิดว่าพระเจ้าเข้าข้าง..ก็ให้นึกถึงบริบทนี้ไว้ แล้วไม่ต้องไปตัดสินเขา..
30.ตอบ ค.การจัดเตรียมที่มาจากพระเจ้า ชัดเจนมากเลย..ทั้งสถานการณ์และภาพที่พระคำภีร์บันทึกไว้ ทำให้เราเข้าใจว่า..พระเจ้าทรงเตรียมอาหารจานด่วน คือน้ำผึ้งที่ไหลย้อยเต็มป่าไว้ให้แก่ทหารอิสราเอลโดยเฉพาะ ขนาดโยนาธานได้ชิมแค่นิดเดียวพระคำภีร์ยังบอกว่า..”ตาของเขาก็แจ่มใสขึ้นทันที” แปลว่า สดชื่นขึ้นมาทันตาเห็น
31.ตอบ ค.เพราะคำสาบานที่ไม่สร้างสรรค์ของซาอูล จริงอยู่ที่มนุษย์มีเชื้อบาปและมักกบฎ แล้วก็อาจมีทหารบางคนที่ไม่ใส่ใจหรือเคารพกฎของพระเจ้าเท่าที่ควร แต่คำสาบานที่บ้าบิ่นของซาอูลเนี้ย..สภาพร่างกายปกติของมนุษย์รับไม่ไหวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ต่อให้เป็นคนดีมีใจชอบธรรมขนาดไหน..ก็อดไม่ไหวที่จะต้องกินเดี๋ยวนั้น เพราะรอต่อไปไม่ไหวแล้ว..นาทีนั้นมนุษย์จะทำได้ทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด
32.ตอบ ข.ไม่ให้สาบาน จริงก็ว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ พูดแค่นี้พอแล้วถ้ามากกว่านี้พระเยซูบอกว่า..มันก็มาจากความชั่ว เด็กๆคิดดูว่าจริง..ไม่จริง เพราะธรรมชาติของคนเรา..เวลาที่พูดเรื่องจริง เราก็จะรู้สึกสบายๆ แต่ถ้าโกหก..ก็ดูเหมือนจะพูดน้อยไม่ได้ เพราะกลัวคนอื่นจะไม่เชื่อ ถ้าข้อมูลน้อยเดี๋ยวจะดูไม่น่าเชื่อถือ ต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยายถึงจะรู้สึกสบายใจ สั้นๆนิ่งๆไม่เป็น..ต้องเยอะตลอด ลองสังเกตดูก็ได้
33.ตอบ ก.พระเจ้าสามารถใช้คนได้ทุกประเภท นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เด็กๆต้องจำไว้ให้ดี เพราะบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่จำกัดสำหรับพระเจ้า พระเจ้าทรงพระปัญญาล้ำเลิศเกินกว่าที่เราจะเข้าใจในทุกๆเรื่อง มนุษย์ก็เป็นสิ่งนึงที่ทรงสร้างและอยู่ใต้การควบคุมของพระองค์ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะรูปแบบไหนที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ พระเจ้าทรงรู้ทั้งหมด แล้วพระองค์ก็สามารถใช้ทุกเหลี่ยม..ทุกมุมของมนุษย์ให้เป็นประโยชน์ตามน้ำพระทัยของพระองค์ได้เสมอ เราอย่าเผลอไปคิดแทนพระเจ้าหรือเอาสติปัญญาของเราไปตัดสิน..ว่าคนนี้พระเจ้าใช้ได้..ส่วนคนนั้นไม่ควรคู่ที่พระเจ้าจะใช้ อะไรประมาณนี้ เพราะพระคำภีร์ก็มีให้เห็นชัดเจน..ว่าหลายครั้งพระเจ้าทรงใช้คนที่ไม่สมบูรณ์พร้อม ทั้งนักเลงหัวไม้ โสเภณี สามัญชน คนต่ำต้อย คนขี้ขลาด คนที่พูดไม่เป็น..อย่างโมเสส หรือแม้แต่คนอย่างซาอูล ทุกคนก็คือคนที่พระเจ้าใช้ทั้งนั้น
34.ตอบ ค.เพื่อให้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า แล้วเราจะได้ไม่หลงผิดในแบบเดียวกัน ไม่ใช่ให้เรากล่าวโทษหรือเกลียดชังคนเหล่านั้น แล้วพระคำภีร์ก็ไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวความผิดบาปของหลายๆคนไว้ เพื่อให้เรารู้สึกว่า..การทำบาปเป็นเรื่องปกติ เช่น “..ขนาดกษัตริย์ดาวิดยังทำบาปเลย เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะทำบ้างก็คงไม่แปลก..เพราะเราอ่อนแอกว่าตั้งเยอะ!!!” นี่คือทัศนคติที่ผิดอย่างแรง..เพราะเราตีความพระคำภีร์เข้าข้างตัวเอง แท้จริงแล้วพระเจ้าบันทึกเรื่องราวความผิดบาปของหลายๆคนไว้เพื่อให้เรามองให้ออกว่า มนุษย์อ่อนแอ..มีเชื้อบาปและมักกบฎ ทุกคน..ทุกคนจริงๆ ไม่ว่าจะมีความเชื่อมากขนาดไหน..ก็มีโอกาสล้มลงในความบาปได้ทั้งนั้น..ถ้าไม่ระวัง เพราะฉะนั้น เราทุกคนจำเป็นต้องพึ่งพระเจ้าตลอดเวลา เด็กๆต้องอธิฐาน..ขอพระองค์ชันสูตรหัวใจของเราและกลับใจใหม่ทุกวัน ขอพระเจ้ายกโทษในความผิดบาป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..ความบาปที่เราทำโดยไม่รู้ตัว หรือความบาปที่ตัวเราเองมองไม่เห็น..หรือเห็นแต่ไม่ยอมมอง เด็กๆต้องไม่คิดว่า..ชั้นมาโบสถ์ทุกอาทิตย์ เรียนพระคำภีร์สม่ำเสมอ เพราะฉะนั้น ชั้นคือผู้ชอบธรรม..ชั้นดีพอแล้ว..ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรหรือกลับใจใหม่ทุกวัน อย่าคิดอย่างงั้น..เพราะมันเย่อหยิ่งเห็นๆแล้วถ้าเราปล่อยให้ตัวเองคิดอย่างงี้ไปเรื่อยๆวันนึงเราต้องล้มลงแน่นอน
35.ตอบ ข.ซาอูลเก็บก.อากักเอาไว้ร่วมโต๊ยเสวย หรืออีกนัยหนึ่ง คือเอาไว้เป็นเชลย...เพราะในสมัยนั้น การมีกษัตริย์ที่แพ้สงครามอยู่ร่วมโต๊ะ ถือเป็นการประกาศศักดาของผู้ขนะอย่างนึง เหมือนนายพรานที่เอาหัวเก้ง หัวกวาง ติดโชว์ไว้ตามผนัง ซาอูลไม่ได้ไว้ชีวิตอากักเพราะมีจิตใจเมตตา เพราะซาอูลไม่มีปัญหาในการฆ่าเด็กและผู้หญิง แล้วซาอูลก็ไม่ได้ทำสิ่งนี้ตามบัญชาของพระเจ้า เพราะพระเจ้าบัญชาให้เขาฆ่าคนอามาเลขและฝูงสัตว์ทั้งหมด พระเจ้าไม่ได้สั่งให้ไว้ชีวิตกษัตริย์หรือเก็บฝูงสัตว์ไว้แต่ซาอูลขัคำสั่ง แล้วเลือกที่จะทำตามใจตัวเอง
36.ตอบ ก.ความเชื่อฟังดีกว่าเครื่องบูชาทั้งปวง เพราะพระเจ้าไม่ได้โปรดเครื่องบูชาใดๆมากไปกว่า..ความเชื่อฟังของเรา ดังนั้น การดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์ คือ เครื่องบูชาหนึ่งเดียวของคริสเตียนที่พระเจ้าทรงพอพระทัย ในหนังสือปัญญาจารย์ 5:1 บอกว่า
“เจ้าจงระวังเท้าของเจ้า เมื่อเจ้าไปยังพระนิเวศน์ของพระเจ้า เพราะการเข้าใกล้ชิดเพื่อจะฟังก็ดีกว่าคนเขลาถวายสักการบูชา ด้วยว่าเขาไม่รู้ว่าตนกำลังทำชั่ว”
พระคำภีร์ข้อนี้ยังคงเตือนให้เราเห็นถึงความสำคัญของความเชื่อฟัง..ว่ามีค่ากว่าเครื่องบูชาทั้งปวง และยังเตือนให้เราระวังความคิดและจิตใจของเรา..ว่าสิ่งสำคัญที่สุดเวลาที่เราเข้าไปหาพระเจ้าในพระนิเวศน์ของพระองค์หรือที่โบสถ์ ก็คือการเชื่อฟังพระวจนะและแสวงหาน้ำพระทัยของพระองค์ ไม่ใช่การเอาเครื่องบูชาเข้าไปถวาย ไม่ใช่การช่วยงานพันธกิจ แน่นอน..สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญเช่นกัน แต่ยังไงก็สำคัญน้อยกว่า..การเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า เพราะฉะนั้น เด็กๆต้องไม่หลงประเด็น..เกี่ยวกับข้อสำคัญของการมาโบสถ์..ว่าแท้จริงแล้ว เรามาโบสถ์เพื่อนมัสการพระเจ้าและเรียนรู้ถ้อยคำของพระองค์ เพื่อที่เราจะสามารถดำเนินชีวิตในแต่ละวันได้อย่างถูกต้องและเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า นี่คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นหน้าที่หลักของเรา เด็กๆอย่าเผลอคิดว่า..อยากมาโบสถ์เพราะสนุกกับงานพันธกิจ กิจกรรม หรือเพราะจะได้เจอเพื่อน แล้วก็เฝ้ารอช่วงเวลาหลังเลิกโบสถ์..จะได้ไปทานข้าวกับเพื่อน.. แล้วให้การนมัสการพระเจ้ากับการเรียนถ้อยคำ กลายเป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นเป้าหมายรองของการมาโบสถ์ ถ้าเผลอกันไปบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ต้องรีบกลับใจซะใหม่..คุกเข่าลงอธิฐาน ขอพระเจ้ายกโทษ แล้วกลับมาโฟกัสที่การนมัสการ..เรียนรู้ถ้อยคำและกระทำตาม หลังจากนั้น มีพันธกิจหรือกิจกรรมอะไรที่ต้องทำ..ก็ทำไปให้ดีที่สุด แต่ต้องให้การนมัสการและการเรียนรู้พระวจนะของพระเจ้ามาเป็นอันดับแรก
37.ตอบ ก.เพราะข้อนี้ซามูเอลมองคนที่รูปลักษณ์ภายนอก เอลีอับถึงได้เข้าตาเขาที่สุดเพราะเป็นลูกคนโต สูงใหญ่ สมาร์ทเหมือนซาอูล พอซามูเอลเห็นปุ๊บ..ก็คิดว่าเอลีอับน่าจะเป็นคนที่พระเจ้าเลือก ข้อนี้ก็สะท้อนให้เราเห็นถึง..ความคิด สติปัญญา ค่านิยม และมุมมองของมนุษย์อย่างชัดเจน...ว่าหลายครั้งมนุษย์มักเชื่อและตัดสินทุกอย่างตามรูปแบบที่ตัวเองมองเห็น เพราะขนาดซามูเอล..ที่ได้ชื่อว่าติดสนิทกับพระเจ้า ก็ยังมีวาระที่เผลอไปเชื่อ..ในสิ่งที่ตามองเห็นเช่นกัน
38.ตอบ ข.ดนตรีมีส่วนเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณ พระเจ้าทรงสำแดงให้เราเห็นความจริงในเรื่องนี้..ผ่านทางพระคำภีร์บทนี้อย่างชัดเจน พระองค์ประสงค์จะให้เราเห็นอัศจรรย์ของเสียงดนตรีที่สามารถจรรโลงจิตใจ เยียวยารักษา อย่างเสียงพิญของดาวิดที่สามารถเยียวยาความทุกข์ทรมานของซาอูลได้ นอกจากนี้ดนตรียังส่งผลได้ทั้งสองด้าน..คือทั้งด้านบวกและด้านลบ ขึ้นอยู่กับจังหวะ ท่วงทำนองและที่สำคัญคือเนื้อหาของบทเพลง อย่างเพลงนมัสการพระเจ้าจะช่วยหนุนจิตชูใจ ฟื้นฟูจิตวิญญาณ เสริมสร้างความเชื่อ ช่วยให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลายและหายเหนื่อย ส่วนเพลงคลาสสิก เพลงแจ๊ส เพลงป็อป เพลงร็อคก็จะส่งผลต่ออารมณ์แตกต่างกันไป และแน่นอนมีดนตรีหรือเพลงบางประเภทเช่นกันที่สามารถปลุกวิญญาณความชั่วร้าย หรือเนื้อหนังความบาปได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ถ้าเด็กๆนึกภาพไม่ออก น้าตุ๊กอยากให้ลองสังเกตดูข่าวในช่วงเทศกาลงานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศกาลสงกรานต์ในปัจจุบัน ที่มีการเล่นน้ำกันผิดแบบผิดประเภทและเกินขอบเขต จนส่งผลให้เกิดอาชญากรรมอยู่เสมอ เมื่อข่าวถูกนำเสนอเด็กๆลองสังเกตดีๆว่า..ผู้ที่เล่นน้ำผิดประเภทจนก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทเหล่านี้..เขาเปิดเพลงประเภทใด..ในขณะที่เล่นน้ำสงกรานต์ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะเล่นอยู่ตามริมถนน หรือจะใช้รถปิคอัพขับตระเวนเล่นน้ำไปตามถนน คนเหล่านี้เกือบจะร้อยทั้งร้อย..เปิดแต่เพลงที่มีจังหวะและท่วงทำนองรุนแรง..ปลุกเร้าอารมณ์ให้ฮึกเหิม หรือไม่ก็มีเนื้อหาส่อเสียด ล้อเลียน ไปจนถึงล่อแหลม หลายครั้งเขาเหล่านั้นต้องจบลงด้วยการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลย..ว่าเสียงเพลงที่พวกเขาเปิดกรอกหูตัวเองอย่างรุนแรงนั้น..เมื่อไปบวกกับแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป มันมีส่วนอย่างมากกับทุกเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น นี่ก็เป็นผลของดนตรีที่มีส่วนเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณเช่นกัน..แต่ในทางลบ
39.ตอบ ข.ความเชื่อวางใจในพระเจ้า จริงอยู่ที่ดาวิดมีความกล้าหาญแต่ความกล้าของดาวิดก็เกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่เขาได้ดำเนินกับพระเจ้าในแต่ละวัน นานเข้าดาวิดจึงมีความเชื่อมั่นในพระเจ้า ต่อเมื่อมีความเชื่อแล้วเขาจึงกล้าที่จะออกไปสู้กับโกลิอัท โดยที่สามารถมองผ่านรูปลักษณ์ภายนอกหรือเงื่อนไขทางฝ่ายโลกไปได้ทั้งหมด
40.ตอบ ก.พระเจ้าสามารถใช้วิธีที่เรียบง่ายในการช่วยกู้เราให้รอดจากสิ่งทั้งปวง พระองค์ไม่จำเป็นต้องใช้ปาฏิหารย์ทุกครั้ง แล้วพระองค์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธียากๆ หรือดูแล้วต้องอัศจรรย์พันลึกอะไรมากมาย แต่มนุษย์ยึดติดกับรูปแบบ รูปลักษณ์ภายนอก รวมทั้งมักวางใจในสิ่งที่ตามองเห็น ทั้งที่ความจริงพระเจ้าสามารถช่วยกู้เราในทุกรูปแบบ พระองค์ไม่ได้ถูกจำกัดไว้ด้วยอะไรทั้งนั้น แล้วหลายครั้งพระเจ้าก็จะใช้วิธีง่ายๆที่มนุษย์คิดไม่ถึง อย่างวิธีที่ดาวิดฆ่าโกลิอัทก็เป็นวิธีที่ไม่มีใครคาดคิด..ว่าเขาจะตายน้ำตื้นขนาดนี้ และสิ่งนี้ก็เป็นหมายสำคัญจากพระเจ้า..ที่ทรงสะท้อนให้เราเห็นถึงวิธีที่พระองค์จะทรงช่วยเราให้หลุดพ้นจากความบาป..โดยทางพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียบง่ายประมาณกัน มีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวคือต้องเชื่อในพระองค์ รูปแบบของความรอดนี้มนุษย์ก็คิดไม่ถึงเช่นกัน และพระเจ้าทรงสำแดงหมายสำคัญนี้ไว้แล้วในการที่ดาวิดฆ่าโกลิอัท
เราก็จบเฉลยชุดที่1 ไว้แค่นี้นะคะ สัปดาห์หน้าเราจะมาต่อชุดที่ 2กัน แล้วหลังจากนั้น น้าตุ๊กจะเริ่มบทเรียนในหนังสือ 2ซามูเอล ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น