วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

หนังสือ 1พงศ์กษัตริย์ ครั้งที่13 (จบ) + แบบทดสอบหนังสือ 1พงศ์กษัติย์

ดู1พกษ.22:29-31 ในที่สุดอาหับกับเยโฮชาฟัทก็ตัดสินใจออกไปรบ..ทั้งที่ลึกๆแล้วเขาเชื่อคำพูดของมีคายาห์ ทำไมถึงรู้ว่าเขาเชื่อ..เพราะข้อนี้ บอกว่า “อาหับปลอมตัวไปทำสงคราม คือ ปกติกษัตริย์ซึ่งเป็นแม่ทัพนั้น..จะแต่งตัวไม่เหมือนใคร แต่ครั้งนี้ อาหับไม่ยอมแต่งชุดนักรบของกษัตริย์..ปล่อยให้เยโฮชาฟัทใส่คนเดียว แต่ปรากฎว่า ข้อที่31 เบนฮาดัดก.ซีเรียได้สั่งลูกน้อง..บอกว่า ไม่ต้องสนใจใคร ตั้งหน้าตั้งตาเล่นงานกษัตริย์อาหับคนเดียวพอ แล้วจะรู้ได้ไง..ว่าคนไหน ก็ต้องดูที่ชุด..คนไหนใส่ชุดกษัตริย์..ก็ลุยเลย ข้อที่32 บอกว่า ฝ่ายทหารซีเรียมองมาก็เห็น..ใคร.. เห็นเยโฮชาฟัทใส่ชุดนักรบของกษัตริย์อยู่คนเดียว..555 แล้วก็คิดว่าใช่แน่ เลยกรูกันเข้าไปรุมเยโฮชาฟัทกันใหญ่เลย เยโฮชาฟัทก็โวยวายขึ้นมา..พวกทหารซีเรียถึงรู้ว่า..ผิดคน (มุกนี้ หนังสมัยนี้ก็เอามาใช้บ่อยนะ) พวกซีเรียก็เลยหันกลับไม่ตามทำร้ายเยโฮชาฟัท ข้อที่34 บอกว่า “มีชายคนหนึ่งโก่งธนูยิงสุ่มไป ถูกกษัตริย์อาหับเข้าระหว่างเกล็ดเกราะและแผ่นบังพระอุระ พระองค์จึงรับสั่งคนขับรถรบว่า "หันกลับเถอะ พาเราออกจากการรบ เพราะเราบาดเจ็บแล้ว"....ลูกธนูของทหารซีเรียคนนึงเสียบเข้าไปตรงร่องรอยต่อระหว่างเกล็ดของเสื้อเกราะซึ่งเป็นจุดที่เล็กมาก เพราะฉะนั้น โอกาสน้อยมากที่จะไปโดนตรงจุดนั้น..แต่ก็โดน..ทั้งที่ยิงไปส่งๆ ถ้าภาษาอย่างเราๆก็จะบอกว่า..”แม่นเหมือนจับวาง” ซึ่งความจริงไม่ใช่เหมือน..แต่มันถูกจับวางจริงๆ..โดยพระหัตถ์พระเจ้า อาหับก็บาดเจ็บสาหัส..เขาเลยเอาพระองค์ออกไป แต่ในที่สุดก็ไม่รอด

ดู1พกษ.22:37-38 อาหับสิ้นพระชนม์เพราะเสียเลือดมาก ข้อที่35 บอกว่า “..โลหิตที่บาดแผลก็ไหลออกนองท้องรถรบ”..เลือดออกมากจนนองเต็มรถรบไปหมด เมื่อเขาฝังศพแล้ว..ก็เอารถรบไปล้าง ข้อที่38 บอก “ขณะที่เขาล้างรถรบสุนัขก็เลียโลหิตของพระองค์ เขาได้ล้างเกราะของพระองค์ ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ซึ่งพระองค์ได้ตรัส..” สรุปแล้วอาหับก็มีอันเป็นไป..ตามคำพิพากษาของพระเจ้าตามที่ทรงตรัสไว้ทางเอลียาห์อย่างครบถ้วนบริบูรณ์

ส่วน1พกษ.ตอนท้ายก็ได้กลับมาที่ก.เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์..อีกครั้ง พระคำภีร์บันทึกว่าเยโฮชาฟัทเป็นกษัตริย์ที่ชอบธรรมเช่นเดียวกับอาสา..พ่อของเขา แต่ยังไงก็ตามเยโฮชาฟัทก็ยังไม่สามารถกำจัดระบบของพระบาอัลให้หมดสิ้นไปจากอิสราเอลได้ เพราะยังมีปูชนียสถานสูงหรือสถานที่ที่ใช้ในการกราบไหว้พระบาอัลหลงเหลืออยู่ทั่วไปในอิสราเอล จากนั้นข้อ 51-53 ก็จะเป็นบันทึกเรื่องราวของอาหัสยาห์..ลูกชายของอาหับ ที่สืบทอดราชบัลลังก์อิสราเอลต่อจากพ่อ รวมทั้งสืบทอดความชั่วร้ายในการกราบไหว้พระบาอัลมาจากอาหับกับเยเซเบลด้วย เดี๋ยวเราจะได้เรียนกันต่อไปในหนังสือ 2พงศ์กษัตริย์.....

บททดสอบ หนังสือ 1 พงศ์กษัตริย์

1.ในสมัยที่แตกออกเป็นสองอาณาจักร ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับอาณาจักรอิสราเอลฝ่ายเหนือและอาณาจักรยูดาห์

ก.อิสราเอลมีกษัตริย์ที่ชอบธรรมอยู่บ้างแต่ยูดาห์ไม่มีกษัตริย์ที่ชอบธรรมเลย

ข.ยูดาห์มีกษัตริย์ที่ชอบธรรมอยู่บ้างแต่อิสราเอลไม่มีกษัตริย์ที่ชอบธรรมเลย

ค.ทั้งอิสราเอลและยูดาห์ต่างมีกษัตริย์ที่มีความชอบธรรมอยู่บ้าง

2.บุรุษผู้เข้าถึงพระทัยและกระทำตามน้ำพระทัยพระเจ้ามากที่สุด [The man after God’s own heart] หมายถึงใคร

ก.ดาวิด ข.ซาโลมอน ค.เอลียาห์

3.จาก 1พกษ.3 เมื่อพระเจ้าให้ขอ..ซาโลมอนขอสิ่งใด

ก.สติปัญญา ข.ขออาณาจักรที่เจริญรุ่งเรือง ค.ขอสร้างพระนิเวศน์ถวายพระเจ้า

4.จาก1 พกษ.3 พระเจ้าทรงประทานสิ่งใดให้แก่ซาโลมอน

ก.สติปัญญา ข.ความมั่งคั่งและเกียรติยศ ค.สติปัญญา ความมั่งคั่งและเกียรติยศ

5. “..และเมื่อเขาร้องขึ้น พร้อมกับแตรและฉาบกับเครื่องดนตรีอย่างอื่นในการถวายสรรเสริญแด่พระเจ้าว่า..เพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์ พระนิเวศน์ของพระเจ้าก็มีเมฆเต็มไปหมด เพราะพระสิริของพระเจ้านั้นเต็มพระนิเวศน์ 2 พศด.5:13-14 สำแดงให้เราเห็นความจริงในเรื่องใด

ก.แตรและฉาบเป็นสิ่งสำคัญในการนมัสการพระเจ้า

ข.พระเจ้าจะทรงมีความรักมั่นคงต่อผู้ที่เล่นดนตรีถวาย

ค.พระเจ้าจะส่งการเจิมลงมาเมื่อเรานมัสการพระองค์ด้วยเสียงเพลงและเครื่องดนตรี

6.พระดำรัสของพระเจ้าใน1พกษ.9:1-9 มีความหมายตามข้อใด

ก.เพื่อเห็นแก่พระนิเวศน์ที่สวยงามและมีค่าที่ซาโลมอนสร้างถวาย พระองค์จะทรงอยู่กับอิสราเอลตลอดไป

ข.ถ้าอิสราเอลไม่เชื่อฟัง พระองค์จะทรงพิพากษาพวกเขา แต่พระองค์สัญญาว่ารักษาพระนิเวศน์ที่ซาโลมอนสร้างถวายให้คงอยู่ตลอดไป

ค.พระนิเวศน์ที่ซาโลมอนสร้างถวายไม่ได้มีค่ามากกว่า"ความเชื่อฟัง" ของเรา ถ้าไม่เชื่อฟัง..พระเจ้าจะทรงตีสอนเราและกระทำให้นิเวศน์นั้นเป็นแค่ซากปรักหักพัง

7.และจากข้อเดียวกัน (1พกษ.9:1-9) ข้อใดกล่าวถูกต้อง

ก. พระเจ้าไม่ทรงโปรดสิ่งใดมากกว่าความเชื่อฟังของเรา

ข.ถ้าเราไม่เชื่อฟัง เราต้องสร้างพระนิเวศน์ถวายพระเจ้าเพื่อล้างความบาป

ค.การสร้างพระนิเวศน์ถวายแด่พระเจ้า เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัย

8.ข้อใดคือเครื่องบูชาที่พระเจ้าพอพระทัยที่สุด

ก.พระนิเวศน์ที่ซาโลมอนสร้างถวาย

ข.ความเชื่อฟัง

ค.เครื่องดนตรีและเสียงเพลง

9.ข้อใดไม่ถือว่าเป็นความผิดพลาดหรือจุดอ่อนของซาโลมอน

ก.พระราชาซาโลมอนทรงรักหญิงต่างชาติหลายคน.

ข.พระราชาซาโลมอนสร้างพระนิเวศน์ถวายแด่พระเจ้า

ค.พระราชาซาโลมอนทรงสะสมรถรบและพลม้า พระองค์ทรงมีรถรบหนึ่งพันสี่ร้อยคัน

10.จาก 1พกษ.11:1-8 เด็กๆคิดว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ซาโลมอนทำบาป

ก.บรรดามเหสีต่างด้าวของพระองค์ทรงหันพระทัยของซาโลมอนให้ไปตามพระอื่น

ข.ความประมาทและการยอมออมชอมต่อความบาป ค. ถูกทั้ง ก และ ข

11.เมื่อถูกพระเจ้าพิพากษา..ซาโลมอนมีท่าทีอย่างไร

ก.ไม่กลับใจแต่กลับหาทางฆ่าเยโรโบอัม

ข.กลับใจใหม่แล้วร้องทูลขอให้พระเจ้ายกโทษ

ค.กลับใจใหม่แต่ยังหาทางฆ่าเยโรโบอัม

12.เราได้เรียนรู้สิ่งใดในการที่ดาวิดกับซาโลมอน..เป็นพ่อลูกกัน

ก.ความชอบธรรม..สามารถสืบทอดกันทางสายเลือด

ข.ความไม่ชอบธรรม..สามารถสืบทอดกันทางสายเลือด

ค.ทั้งความชอบธรรมและไม่ชอบธรรม..ไม่สามารถสืบทอดกันทางสายเลือด

13.ข้อใดคือสาเหตุที่ทำให้อิสราเอลสิบเผ่าแยกตัวออกจาอาณาจักรยูดาห์และเจิมตั้งเยโรโบอัมขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล

ก.เรโหโบอัมไม่น่าเชื่อถือเหมือนซาโลมอน

ข.เยโรโบอัมกบฎ..ชิงบัลลังก์จากเรโหโบอัม

ค.เรโหโบอัมเชื่อที่ปรึกษาที่เป็นคนรุ่นเดียวกัน..ไม่ยอมลดหย่อนภาษีให้กับคนอิสราเอล

14.จาก 1พกษ.12:1-15 แสดงให้เราเห็นถึงอิทธิพลของสิ่งใด

ก.อิทธิพลของคนให้คำปรึกษา ข.อิทธิพลของเรโหโบอัม ค.อิทธิพลของเยโรโบอัม

15.ข้อใดคือสาเหตุที่ทำให้เยโรโบอัมสร้างรูปวัวทองคำขึ้นมา ให้คนอิสราเอลนมัสการแทนพระเจ้า (1พกษ.12:25-28)

ก.เพราะพระเจ้าบัญชาให้สร้าง

ข.เพราะประชาชนไม่ยอมกลับไปนมัสการพระเจ้าที่เยรูซาเล็ม

ค.เพราะเยโรโบอัมกลัวว่า คนอิสราเอลจะกลับใจไปเข้าข้างยูดาห์ ถ้ายังปล่อยพวกเขาให้กลับไปนมัสการพระเจ้าที่เยรูซาเล็ม

16.จาก 1พกษ.17:1-7 เหตุใดพระเจ้าจึงตีสอนคนอิสราเอลด้วยภัยแล้ง

ก.เพราะอิสราเอลไม่รู้จักแบ่งปันซึ่งกันและกัน

ข.เพราะอิสราเอลเชื่อว่าพระบาอัลเป็นผู้ควบคุมฝน

ค.เพราะอิสราเอลเชื่อว่าพวกเขาสามารถควบคุมฝนได้ด้วยตัวเอง

17.จาก 1พกษ.บทที่17 เราได้ข้อคิดอะไร ในการที่หญิงม่ายยอมแบ่งอาหารที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดให้แก่เอลียาห์

ก.คริสเตียนจะถวายเกียรติและวางใจพระเจ้าในทุกสถานการณ์

ข.คริสเตียนจะแบ่งปันในเวลาที่เหมาะสม

ค.คริสเตียนต้องเป็นตัวของตัวเองเสมอ

18.จาก 1พกษ.17:13-16 ข้อใดกล่าวถูกต้อง

ก.บางครั้งเราต้องใช้สติปัญญาของเราในการทำตามพระบัญชาของพระเจ้า

ข.พระเจ้าคิดไม่เหมือนมนุษย์ แล้วทางของพระองค์ก็ไม่เหมือนทางของโลก

ค.ทางของพระเจ้าต้องสอดคล้องกับความคิดของเราเสมอ

19.จาก 1พกษ.18:17 เด็กๆคิดว่าใครคือสาเหตุในที่พระเจ้าต้องพิพากษาภัยแล้งต่ออิสราเอล

ก.เอลียาห์ ข.อาหับ ค.ทั้งอาหับและเอลียาห์

20.ทำไมเอลียาห์จึงสามารถไปท้าทายพระบาอัลและปุโรหิตของพระเหล่านั้นได้..อย่างแข็งกร้าว

ก.เพราะเอลียาห์เป็นคนของพระเจ้า ข.เพราะเอลียาห์มีสิทธิอำนาจที่มาจากพระเจ้า

ค.เพราะเอลียาห์ทำตามพระบัญชาของพระเจ้า

21.ชัยชนะในสงครามของอิสราเอลตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาขึ้นอยู่กับสิ่งใด

ก.ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างคนอิสราเอลกับพระเจ้า

ข.ขึ้นอยู่กับจำนวนคนและอาวุธยุทโธปกรณ์ ค.ถูกทั้ง ก และ ข

22.ข้อใดกล่าวถึงสถานการณ์ของอิสราเอลฝ่ายเหนือได้อย่างถูกต้อง

ก.ขาดเสถียรภาพ..มีการโค่นล้มแย่งชิงบัลลังก์และฆ่าล้างเผ่าพันธ์กันอยู่ตลอดเวลา

ข.มีเสถียรภาพในช่วงแรก..แต่มีการโค่นล้มแย่งชิงบัลลังก์กันในช่วงก่อนอาณาจักรจะล่มสลาย

ค.ขาดเสถียรภาพ..เพราะถูกรุกราน แต่มีราชวงศ์ที่มั่นคง..ไม่มีการโค่นล้มแย่งชิงบัลลังก์

23.ข้อใดกล่าวถึงความสภาพจิตวิญญาณของอิสราเอลและยูดาห์ได้อย่างถูกต้อง

ก.เมื่อถูกพิพากษาอิสราเอลจะสำนึกผิด..ละทิ้งพระบาอัล และหันกลับมานมัสการพระเจ้าองค์เดียวเสมอ

ข.เมื่อถูกพิพากษาทั้งอิสราเอลและยูดาห์จะสำนึกผิด..ละทิ้งพระอื่น และหันกลับมานมัสการพระเจ้าองค์เดียวเสมอ

ค.เมื่อถูกพิพากษายูดาห์จะสำนึกผิด และหันกลับมานมัสการพระเจ้าองค์เดียวเสมอ

24.เอลียาห์ทำอย่างไร พระเจ้าจึงส่งไฟลงมาเผาเครื่องบูชาของเขา (1พกษ.18)

ก.อดอาหารอธิฐาน 7 วัน 7 คืน ข.เชือดเนื้อเฉือนตัวและนุ่งผ้ากระสอบ

ค.อธิฐานแค่ครั้งเดียว

25.เด็กคิดว่า..ทำไมเอลียาห์จึงถอดใจกับงานรับใช้

ก.เพราะพระเจ้าไม่ตอบคำอธิฐานของเอลียาห์

ข.เพราะเอลียาห์คาดหวังการฟื้นฟูตามสติปัญญาของตัวเอง ค.ถูกทั้ง ก และ ข

26.เด็กๆคิดว่าใครมีอิทธิพลต่อจิตวิญญาณของกษัตริย์อาหับมากที่สุด

ก.มเหสีเยเซเบล ข.พระบาอัล ค.ปุโรหิตพระบาอัล

27.จาก 1พกษ.21:1-16 ข้อใดกล่าวถูกต้อง ในการที่นาโบทโดนหินขว้างจนตาย

ก.นาโบทคือผู้ชอบธรรม..เพราะยืนยันจะรักษาที่ดินของบรรพบุรุษไว้

ข.นาโบทคือคนอธรรม..เพราะไม่ยอมขายที่ดินให้กษัตริย์

ค.นาโบทคือคนอธรรม..ที่ไม่ยอมรักษาที่ดินของบรรพบุรุษไว้ตามพระบัญญัติของพระเจ้า

28.เกี่ยวกับเรื่องสวนองุ่นของนาโบท ข้อใดกล่าวถูกต้อง

ก.มเหสีเยเซเบล คือ คนอธรรม ข.นาโบท คือ คนอธรรม

ค.มเหสีเยเซเบลและกษัตริย์อาหับ คือ คนอธรรม

29.จาก 1พกษ.22:1-12 เด็กๆคิดว่า..ทำไมกษัตริย์เยโฮชาฟัทจึงรู้สึกได้ถึงความเทียมเท็จของผู้พยากรณ์ทั้ง 400 คนของอาหับ

ก.เพราะเยโฮชาฟัทรู้ดีว่าอาหับเป็นคนอธรรม ข.เพราะเยโฮชาฟัทไม่ไว้ใจมเหสีเยเซเบล

ค.เพราะเยโฮชาฟัทรักพระเจ้าและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์

30.เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครคือผู้เผยพระวจนะแท้ที่มาจากพระเจ้า

ก.สิ่งที่เขาเผยพระวจนะไว้จะต้องเกิดขึ้นจริงเสมอ

ข.ต้องเป็นผู้เผยพระวจนะที่ได้รับการยอมรับจากกษัตริย์และประชาชน

ค.สิ่งที่เขาเผยพระวจนะไว้จะต้องเกิดขึ้นจริงและโน้มนำให้คนดำเนินอยู่ในทางของพระเจ้า.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น